นายกฯชี้คดีข้าวอุทธรณ์ได้ยึดตามขั้นตอนกม.

นายกฯชี้คดีข้าวอุทธรณ์ได้ยึดตามขั้นตอนกม.

นายกฯชี้คดีข้าวอุทธรณ์ได้ยึดตามขั้นตอนกม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ชี้ คดีข้าวอุทธรณ์ได้ ยึดตามขั้นตอนกฎหมาย ย้ำตนเองมีหน้าที่นำเข้าสู่กระบวนการเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ชี้ขาดผิด-ถูก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการเรียกค่าเสียหายคดีโครงการรับจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นสิทธิ์ที่สามารถเรียกร้อง ยื่นอุทธรณ์ ไม่ว่าใครก็ตาม หากอุทธรณ์ไม่ได้ ตามกระบวนการศาล ฝ่ายกฎหมายชี้แจงว่าก็สามารถยื่นขอทุเลาคำสั่งได้ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการปกติ โดยส่วนตัวมีหน้าที่ในการนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเท่านั้น ไม่ได้ระบุว่าถูกหรือผิด แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นมากจึงต้องมีการชี้แจงในศาล

ส่วนที่มีการมองว่าพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ขัดต่อเจตนารมณ์นั้น ส่วนตัวได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายแล้วยืนยันว่าไม่ขัด และเป็นสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้น หากมีข้อชี้แจงใดๆ ก็ขอให้ชี้แจงที่ศาลอย่าชี้แจงในสื่อ และส่วนตัวจะไม่ตอบโต้เรื่องนี้อีก เพราะถือว่าได้นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปแล้ว จึงขอให้ชี้แจงด้วยหลักฐานที่มีอยู่ และทุกคดีตนเองไม่ได้เป็นคนเริ่มต้น แต่เป็นคดีที่ค้างคามา จึงต้องรับมาปฏิบัติต่อในกระบวนการยุติธรรม และเมื่อเข้าสู่กระบวนการแล้วถือว่าหมดหน้าที่ของตนเองแล้ว จึงขอให้รอฟังต่อไปว่าผลออกมาอย่างไรและไม่อยากให้สร้างความขัดแย้งกันต่อไปในทุกๆ เรื่องและทำให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย

สำหรับเหตุระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เทศบาลเมืองปัตตานี จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ว่า เมื่อมีฝ่ายที่จ้องกระทำก็ต้องมีเหตุเกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ แต่จะเห็นได้ว่าบุคคลเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็นชัดเจนและอยู่ปะปนกับประชาชน และขณะนี้หลายอย่างดีขึ้น แต่อาจเป็นผลกระทบจากการพูดคุยสันติสุข จึงต้องการแสดงศักยภาพของฝ่ายต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่อยากให้สื่อให้ความสำคัญมากนัก แต่เน้นเรื่องการเสนอข้อเท็จจริง โดยรัฐบาล หน่วยข่าวต่างๆ จะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้สถานการณ์เกิดความสงบเรียบร้อยให้เร็วที่สุดในทุกมาตรการ และไม่ต้องการให้เป็นการเพิ่มศักยภาพและสร้างความหวาดกลัวให้ประชาชนหากให้ความสำคัญมากเกินไป และขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนก็เสี่ยง ขอให้เห็นใจ เจ้าหน้าที่พร้อมเสียสละไม่ต้องการให้ประชาชนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว ซึ่งมีการเน้นงานด้านการข่าวและดีขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องการให้ความสำคัญกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ

 

นายกฯยันรบ.ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงบริหารปท.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า รัฐบาลยึดหลักการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาตลอด โดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งต้องช่วยกันขยายทำความเข้าใจมากขึ้น โดยต่างประเทศ เข้าใจและนำไปใช้ ส่วนประเทศไทยนั้น ส่วนตัวพยายามสร้างการรับรู้ว่าสิ่งที่รัฐบาลทำตรงกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทั้งหมด ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยมีความเชื่อมโยงทั้งในประเทศ และเป็นการตอบคำถามในอนาคต และทุกคนก็แสดงความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงอยากให้ทุกคนรู้สึกว่า พระองค์ท่านทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี โดยทดลองเกี่ยวกับเรื่อง น้ำ อากาศ สิ่งแวดล้อม ซึ่งพระองค์ท่านยังอยู่กับพวกเราเสมอไม่มีวันจากไปไหน อยู่ในหัวใจ และขอให้ทุกคนน้อมนำกระแสพระราชดำรัส และโครงการพระราชดำริที่ทรงทำไว้ มาปรับใช้ โดย 15 ปีที่ผ่านมา ไทยสามารถผ่านวิกฤติต้มยำกุ้ง และน้ำท่วมมาได้ เพราะความพอเพีย งจึงอยากให้นำสิ่งเหล่านี้มาสานต่อเพื่อให้ทุกคนมีความสุข ทั้งนี้ ขออย่าบอกว่า รัฐบาลมุ่งเน้นแต่ความความทันสมัย จนไม่สนใจผู้มีรายได้น้อย แต่เพราะเป็นการขับเคลื่อนให้เกิดการลงทุน

 

นายกฯยันไม่มีเว็บเพจของตนเองไร้ขัดแย้งผู้นำมาเลย์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า ส่วนตัวไม่มีเว็บเพจเป็นของตนเอง จึงขอให้ดูเจตนารมณ์ว่า ทำเพื่ออะไร ซึ่งไม่เฉพาะตนเองเท่านั้น ในต่างประเทศก็มีเช่นกัน เช่น การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจจะเป็นการเลียนแบบกันมา และที่มีกระแสข่าวในโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับตนเอง และ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียนั้น ยืนยันว่าตนเองและผู้นำมาเลเซีย มีความสนิทสนมกัน เพราะต่างเป็นผู้นำประเทศเช่นเดียวกัน เรื่องใดก็ตามที่เป็นกิจการภายในประเทศ ก็เป็นเรื่องของแต่ละประเทศที่ต้องแก้ปัญหากันไป แต่เรื่องใดที่สร้างสรรค์ก็เป็นความร่วมมือระหว่างอาเซียน จึงต้องแยกแยะกันให้ออก

อย่างไรก็ตาม ขอบคุณคนที่หวังดีกับรัฐบาลและตนเอง แต่ขอให้มองสองด้าน เพราะถ้าทำมากเกินไปก็มีคนไม่ชอบ เพราะทุกอย่างมี 2 ด้านเสมอ และต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้คนทั้งประเทศ มีเหตุผลในการดำเนินชีวิตต่อไป โดยที่ประเทศชาติไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีการแบ่งสี แบ่งพวกกันอีกต่อไป ซึ่งส่วนตัวคิดว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ต้องทำถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงอยู่กับเรามาตลอดและท่านไม่มุ่งหวังให้ประชาชนทะเลาะเบาะแว้งกันอีกต่อไป

 

นายกฯขอปชช.ระมัดระวังอย่าใช้ความรุนแรงให้ยึดกม.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า อยากขอให้ประชาชนระมัดระวัง อย่าทำร้ายซึ่งกันและกันในช่วงเวลานี้ ด้วยความรู้สึกส่วนตัวที่ทั้งเจตนาและไม่เจตนา โดยขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย อย่าใช้มาตรการความรุนแรงมาทำร้าย หรือตบตีกัน เพราะภาพจะออกไปสู่ต่างประเทศ นำมาซึ่งความเสียหายต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่อว่า ยืนยันว่า ถึงแม้เป็นเวลาที่ทุกคนเสียใจและทุกข์โศก ซึ่งไม่ได้มีกฎหมายมาตราใด มาบีบบังคับให้คนทุกคนมาแสดงออกแบบนี้ และทุกอย่างเป็นการแสดงถึงจิตใจของคนไทย ต่างประเทศจึงน่าจะเข้าใจว่า เป็นความแตกต่าง ทั้งนี้ กฎหมายมีไว้ปกป้องสถาบัน เพราะพระองค์ท่านไม่ได้ลงมาเกี่ยวข้องในทางการเมือง หรือในความขัดแย้งใดๆ ดังนั้น กฎหมายที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นกฎหมายที่ทุกรัฐบาลได้กำหนดในรัฐธรรมนูญ โดยสถาบันไม่เคยออกกฎหมายแบบนี้ อีกทั้ง พระองค์ท่านทรงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ จึงขอให้เข้าใจอย่าเอามาพันกัน และวันนี้ทุกคนต้องกลับมาสู่กฎหมาย นึกถึงสังคมและเผื่อแผ่แบ่งปัน เพื่อถวายแด่พระองค์ท่าน และเพื่อให้ประเทศไปได้


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook