ตี๋ AFปลื้มมีโอกาสรวมแก๊งเพื่อนๆขับรถรับปชช.

ตี๋ AFปลื้มมีโอกาสรวมแก๊งเพื่อนๆขับรถรับปชช.

ตี๋ AFปลื้มมีโอกาสรวมแก๊งเพื่อนๆขับรถรับปชช.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่ม'ตี๋ AF' ปลื้มมีโอกาสรวมแก๊งเพื่อน ๆ ขับรถรับส่งประชาชนให้กำลังใจอาสาสมัครประสบอุบัติเหตุ

สำหรับหนุ่ม ตี๋ - วิวิศน์ หรือตี๋ AF4 เปิดเผยกับ ผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนและเพื่อนๆ แก๊ง "ปลดแอกชาวสองล้อ" ตั้งจุดขับรถรับส่งประชาชนที่เดินทางมายังสนามหลวง พร้อมกับให้กำลังใจอาสาสมัครที่ประสบอุบัติเหตุด้วย

ตี๋มาขี่มอเตอร์ไซค์ รับส่งฟรี "ใช่ครับ ประมาณ 3-4 วันก่อน ผมมากับพี่ชายนะครับ และมากับเพื่อนๆ ด้วย ในเพจเฟซบุ๊ก "ปลดแอคชาวสองล้อ" มาร่วมกันขี่มอเตอร์ไซค์มารับส่งผู้โดยสารฟรี บรรยากาศดีมาก คือคนที่เป็นสาสาสมัครเยอะมาก และพี่น้องประชาชนที่มารับโดยสารจากเราก็เยอะมาก แต่เป็นบรรยากาศที่ดีมากๆ จุดที่ผมไปขี่รถรับส่ง ผมจำชื่อเรียกไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้มันมาจากสิ่งที่เรามี ตอนแรก ผมก็นั่งคิดแหละว่า เราอยากทำเพื่อพ่อ แต่เราจะทำอะไรดี เพื่อสังคม เพราะคนที่เขาเอาข้าวปลาอาหารมา มันค่อนข้างมีเยอะเหมือนกัน ตอนแรกผมจะมาเก็บขยะ คือเตรียมถุงมาแล้ว แต่ไม่มีขยะให้เก็บ เพราะมีพี่น้อง ที่มาเป็นอาสาสมัครเยอะ ผมเลยคิดว่า ทำจากสิ่งที่เรามีอยู่แล้วกัน และเป็นสิ่งที่เราชอบด้วย คือการขี่มอเตอร์ไซค์ เราอยาหจะทำแบบนี้มานานแล้ว และงวดนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่เราได้ร่วมทำ"

ความรู้สึกที่ได้รับส่งผู้โดยสาร"มีความสุขครับ คือระยะทางที่เราไปส่งมันไม่ได้ไกลมากหรอก สำหรับผู้โดยสารแต่ละท่านนะ เพราะว่าเราไปส่ง ในจุดที่เขาไปต่อได้ แต่ระหว่างทางเราจะมีพูดคุยกัน ว่าเป็นยังไง มาจากที่ไหน หรือว่ามากี่ครั้งแล้ว ทำอาชีพอะไร แบบนี้ครับ เป็นความสุขที่เราอธิบายไม่ถูกเลย และก็มีอยู่รายหนึ่งเป็นคุณลุงที่มาซ้อนผม เขาก็ขอบคุณผมมากๆ เลย ลุงบอกว่า ดีมากๆ เลยนะ ในสิ่งที่ผมทำ ลุงอวยพรขอให้ลูกโชคดี และมีความสุขมากๆ เพราะเราทำดีเพื่อพ่อ ถามว่าลุงจำผมได้มั้ยว่าเป็น ตี๋ เอเอฟ คือคนจำไม่ได้เยอะเหมือนกัน เพราะว่าผมปิดจมูก มีเปิดบ้าง แต่ส่สนใหญ่ปิด เลยมีทั้งคนที่จำได้และไม่ได้ วันนั้นผมมาตั้งแต่ 5-6 โมงเย็น มาเริ่มเก็บขยะก่อน แต่ไม่มีขยะ เลยไปที่จุดรถรับส่งคน ตอนนั้นประมาณ 2-3 ทุ่ม ผมรับส่ง จนถึงเกือบเที่ยงคืน จนผู้โดยสาร เริ่มซาแล้ว ถามว่าจะมาอีกครั้ย ครับถ้าว่าง ผมก็จะมา ต้องนัดกันมาอีกแน่นอน"

พอตี๋ได้รู้ความรู้สึกของคนที่เรารับส่ง มันเป็นยังไง

"คือผมรู้สึกว่าคนที่เขามา เขามาด้วยใจจริงๆ และหลายๆ คนที่เขาเดินทางมาลำบากมากนะ ผมรู้สึกเลยว่า ถ้าผมไม่ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มานะ โห้ กว่าจะเข้ามาถึงได้ รถก็ติดมาก กว่าจะเดินฝ่าคนเข้ามาอีก คือเราถือว่าเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในการที่ทำให้เขาได้ เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี ถือว่าเขามาด้วยใจ และเราให้ความสุขเขาได้ แม้เป็นสิ่งเล็กน้อยก็ยังดี เหมือนผมอยากมาเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่ง มาช่วยดูแลคนที่มาหาพ่อ เพราะคนที่มาเป็นอาสาสมัครก็มีเยอะมาก และผมคิดว่าน่าจะมีอาสาสมัครมาอีกเรื่อยๆ"

มีอาสาสมัครขี่มอเตอร์ไซค์ฟรี คนหนึ่งประสบอุบัติเหตุ อาการโคม่าอยู่ ตี๋ทราบข่าวมั้ย และรู้สึกอย่างไรบ้าง

"จริงๆ ผมเพิ่งทราบข่าวจากพี่ๆ (นักข่าว) ตอนนี้เลย อยากจะบอกว่า ขอเป็นกำลังใจให้พี่เขา ผมขอให้พี่เขาหายไวๆ ให้รักษาตัว รวมถึงผู้โดยสารทุกคนที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ด้วย คืออุบัติเหตุแบบนี้ ผมเชื่อว่า ไม่มีใครอยากให้เกิด ขอให้เคลียร์กัน และจบลงด้วยดี ผมขอให้พี่เขาหายไวๆ ดีกว่า เป็นกำลังใจให้ ทำดี ดีแล้วครับ แต่ต่อไปเราต้องระมัดระวังให้มากขึ้นด้วย"

ตี๋เคยถวายงานพระองค์ท่านมั้ย

"จริงๆ ปีที่ผ่านๆ มาในวันพ่อ หรือวันพิเศษต่างๆ ของในหลวง ผมมีโอกาส ได้ไปร้องเพลงตามสถานที่ต่างๆ อยู่เรื่อยๆ  แต่ล่าสุด ผมกับบรรดาศิลปินของค่าย "ทรูแฟนเทเชีย" หลายคนเลย รวมถึงค่าย "ไอแอม" ด้วย มาร่วมกันร้องเพลงเพื่อพ่อหลวงของเรา ชื่อเพลงด้วยรักของพ่อ แต่พอดีว่ายังไม่ได้ปล่อยเพลงออกมา เป็นเพลงแต่งขึ้นมาใหม่ เพื่อพ่อหลวง"

ความรู้สึกในวันที่ได้ร้องเพลงนี้

"โห้ คือวันนั้นเป็นความรู้สึกที่มันสดมากๆ เพราะว่าหลังจากทราบข่าวของพระองค์ท่านได้เพียง วันเดียว หรือสองวัน ประมาณนี้ ทางผู้ใหญ่ของทรู ได้เชิญพวกเรามาร้องเพลงนี้ร่วมกันเลย บรรยากาศในวันนั้น เศร้ามากๆ ครับ หลายๆ คนยังคงทำใจไม่ได้ในวันนั้น ความรู้สึกมันยังจุกมาก ผมเชื่อว่าเป็นความรู้สึกที่กะทันหันมากๆ สำหรับคนไทยหลายคน เพราะคนไทยรักในหลวงมาก"

อยากให้พูดถึงความรู้สึกที่มีต่อพระองค์ท่าน เรารักท่านอย่างไร

"ตั้งแต่เด็ก เรารับการสอนมาตลอดว่า เราต้องรักพ่อหลวง รักในหลวง และเราทราบมาตลอดว่าท่านทรงงานหนัก ท่านรักคนไทย ทำงานมาตลอด70 ปี แต่ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทำให้ผมได้มีโอกาสได้ศึกษา เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ของท่าน และประวัติชีวิตของท่านมากขึ้น ทำให้เราซาบซึ้ง ในตัวท่านมากๆ ว่าท่านทรงงานหนักตลอดชีวิตจริงๆ จนวินาทีสุดท้ายของท่าน ก็ยังคงทรงงานเพื่อพวกเรา ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำให้เราซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ยิ่งทำให้เรามีกำลังใจ ในการทำงาน และในการทำความดี ถือว่าเป็นส่วนเล็กๆ เพื่อท่านก็ยังดี"


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook