พสกนิกรทั่วไทยร่วมกิจกรรมอาลัยพ่อแห่งแผ่นดิน

พสกนิกรทั่วไทย ร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์ พร้อมแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

@ผู้พิการทางขานั่งรถวีลแชร์ใช้มือโยกจากจันทบุรีมุ่งหน้าสู่ท้องสนามหลวง

นายณรงค์ พันธุ์อินทร์ อายุ 54 ปี ผู้พิการทางขาได้นั่งรถวีลแชร์โดยใช้มือโยกคันบังคับรถเคลื่อนไหว พร้อมพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาจากจังหวัดจันทบุรี ผ่าน จ.สระแก้ว มุ่งหน้ามาตามถนนสาย359 (สระแก้ว-ปราจีนบุรี) สู่ท้องสนามหลวง ท่ามกลางความสนใจของผู้พบเห็น โดยมีหน่วยกู้ภัยช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อไปกราบถวายสักการ นายณรงค์ กล่าวว่า ได้โยกรถวีลแชร์มาจากวัดพิกุล ต.ปะตง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ผ่านเขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เข้าเขตจังหวัดปราจีนบุรี ตามถนนสาย 359 (สระแก้ว-ปราจีนบุรี) เขต ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี โดยจะพักค้างแรมที่โครงการพระราชดำริเขาหินซ้อน ถนนสาย 304 (พนมสารคาม-ฉะเชิงเทรา) ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้คาดใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 วันสู่กรุงเทพมหานคร

 

@แม่ค้าอาหารตามสั่งยะลาผัดก๋วยเตี๋ยวให้ประชาชนรับประทานฟรี

ที่ร้านนันทา เลขที่ 25 ถนนเทศบาล 9 เขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ได้เปิดให้พี่น้องประชาชนชาวยะลา มารับก๋วยเตี๋ยวราดหน้าและผัดซีอิ้ว ฟรี ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป จนกว่าจะหมด เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และยังคงมีประชาชนชนเดินทางมาเข้าคิวรอรับแจก ผัดซีอิ้ว และก๋วยเตี๋ยวราดหน้ากันจำนวนมาก นางนันทา คงอาสา เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ทางร้านได้เปิดให้พี่น้องประชาชนชาวยะลาได้มารับก๋วยเตี๋ยวและผัดซีอิ้วฟรี ก็เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องจาก ตนเองและครอบครัวมีอาชีพขายอาหารเพื่อเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดิน และในหลวงที่ตนเองรัก การผัดก๋วยเตี๋ยวเพื่อแจกให้กับประชาชนรับประทานฟรีนั้น รอบนี้เป็นรอบที่ 2 แล้ว จากเดิม 100 กก. เป็น 200 กก. เพื่อให้เพียงพอกับประชาชน

 

@นักศึกษาวิชาทหารขอนแก่นแต่งเครื่องแบบแปรอักษร"เรารักพ่อ"

ที่ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 23 (มทบ.23) ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น พ.อ.รังสรรค์ ตันสิทธิแพทย์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มทบ. 23 นำนักศึกษาวิชาทหารจาก 10 สถาบันการศึกษาในเขต จ.ขอนแก่น รวมกว่า 500 นาย พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเพื่อน้อมเกล้าฯ แสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยทำการจัดแบ่งนักศึกษาวิชาทหารที่แต่งเครื่องแบบเต็มยศทุกนาย เป็น 2 กลุ่มๆ ละ 250 นาย พร้อมเดินออกจากสองฝั่งของลานฝึกเข้ามาหากัน และแปรขบวนเป็นตัวอักษร 2 ช่วงพร้อมกัน คือด้านบน เป็น รูปหัวใจขนาดใหญ่ล้อมรอบเลข 9 ไทย ด้านล่างเป็นคำว่าเรารักพ่อ อยู่ตรงกลางริบบิ้น 2 อัน อย่างสวยงามและพร้อมเพรียง ก่อนร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี

 

@สนช.มอบกระบือ99ตัวให้เกษตรกรอุดรฯถวายเป็นพระราชกุศลในหลวง

ที่ จ.อุดรธานี พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง คณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นประธาน ในพิธีมอบกระบือให้เกษตรกรยืมเพื่อการผลิต ตามโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมี นายปราโมทย์ ธัญพืช ปลัดจังหวัดอุดรธานี นายธเนศ ถวิลหวัง ปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี นายอำนวย อินทรราช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาพู่ ให้การต้อนรับ นายปราโมทย์ ธัญพืช ปลัดจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ด้วยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้จัดโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นกระบือเพศเมีย 79 ตัว และมอบให้ปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี นำไปมอบให้เกษตรกรเพื่อการเกษตรในพระราชดำริ ซึ่งโครงการธนาคารโค-กระบือ (ธ.ค.ก.) ได้มอบอีก 20 ตัว รวมเป็น 99 ตัว มอบให้เกษตรกรในตำบลนาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ยืมไปทำการเกษตร ตามระเบียบของ ธ.ค.ก. เมื่อแม่กระบือลูกตัวที่ 1 ให้คืน ธ.ค.ก. เพื่อนำไปให้เกษตรรายใหม่ เมื่อยืมครบ 5 ปี กรมปศุสัตว์ จะมอบกระบือและลูกตัวที่ 2 และต่อๆ ไปให้เป็นสิทธิ์เกษตรกรต่อไป 

 

@สุดยอดหนุ่มพังงาตัดผมแกะสัญญาลักษณ์เลข9เพื่อพ่อหลวง

ที่ร้านตัดผมในหมู่บ้านหินสามก้อน หมู่ที่ 6 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา พบ นายสุพจน์ ภูมิรักษ์ อายุ 35 ปี อาชีพลูกจ้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อยู่บ้านเลขที่ 11/5 ม.6 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นั่งตัดผมเหมือนคนอื่นๆ แต่ที่พิเศษไปกว่าคนอื่นคือมีการแกะสัญญาลักษณ์เลข 9 ไทย บนศีรษะตัวเอง จนเป็นที่สนใจของเพื่อนๆ ที่มารอคิวตัดผม พร้อมกับชื่นชมถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ออกมาจากใจ นายสุพจน์ ภูมิรักษ์ เผยว่า รักในหลวงมาก และอยากจะทำอะไรเพื่อพระองค์บ้างจึงได้คิดที่จะตัดผมพร้อมกับแกะสัญญาลักษณ์เลข 9 ไทย ไว้เหนือศีรษะตัวเองเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และไม่รู้จะบรรยายยังไง ทั้งนี้จะตั้งใจทำความดีตามคำสอนของพ่อหลวง ที่ทรงตรัสไว้

 

@ชาวจังหวัดสระแก้วร่วมวิ่งน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ที่บริเวณสถานีรถไฟจังหวัดสระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว นายธีระชัย ลิ้มประสิทธิศักดิ์ นายอำเภอเมือง พร้อมด้วยประชาชนชาวจังหวัดสระแก้ว ร่วมกิจกรรมวิ่งน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้และแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กว่า 500 คน โดยก่อนเริ่มกิจกรรมได้มีการยืนแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเมื่อวิ่งถึงปลายทางบริเวณวงเวียนด้านหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองสระแก้ว ได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ โดยพร้อมเพรียงกัน ซึ่งเส้นทางการวิ่งนี้จะเป็นรูปเลข 9 ระยะทาง 3.8 กิโลเมตร เส้นทางวิ่งเส้นทางวิ่งเริ่มจากสถานีรถไฟสระแก้ว มุ่งหน้าเข้าเมืองตามถนนเทศบาล 19 เลี้ยวขวาผ่านสนามกีฬาเทศบาลไปยังด้านหลังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสระแก้ว เลี้ยวซ้ายผ่านตลาดเมืองแก้ว แล้ววิ่งออกมายังถนนสุวรรณศร เลี้ยวซ้ายไปกลับตัวที่แยกไฟแดง โรงเลื่อยวิ่งย้อนกลับมาตามถนนสุวรรณศร เพื่อไปเลี้ยวซ้ายเข้า สำนักงานเทศบาลเมืองสระแก้ว โดยเส้นทางทั้งหมดเมื่อขีดเป็นเส้นจะได้เลขเก้าไทย

 

@หนุ่มศรีสะเกษดินเท้ากว่า500กม.เข้ากรุงเทพฯล่าสุดถึงเขตสุรินทร์

นายรถชัย ทองปัด อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 3 ต.เมืองจันทร์ อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ เดินเท้าเปล่าตามถนนสาย 226 ผ่าน จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สระบุรี อยุธยา เข้ากรุงเทพฯ เพื่อเข้าไปเป่าแคนเพลงสรรเสริญพระบารมี แสดงความอาลัยในหลวง ขณะนี้ได้เดินทางเข้าถึงพื้นที่อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ แล้ว โดยการเดินเท้าประดับพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ติดธงชาติ มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร ตามถนนหลวงหมายเลข 226 โดยคืนนี้จะพักค้างคืนที่อำเภอสำโรงทาบ ก่อนที่จะออกเดินเท้าต่อไปยังอำเภอศีขรภูมิ เข้าสู่ตัวเมืองสุรินทร์ และตรงเข้าไปในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ต่อไปในวันพรุ่งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่ คอยดูแลอำนวยความสะดวก

 

@สาวใหญ่ปั่นจักรยานเจอหนุ่มพิการขับจยย.พ่วงข้างด้วยความบังเอิญ

ที่ศาลาที่พักผู้โดยสารถนนเอเชีย 41 ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มี นางอมลวรรณ มณีภาค อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 264/1 ม.13 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้ปั่นรถจักรยานไปเจอกับ นายสนิท คงแก้ว อายุ 42 ปี อยู่บานเลขที่ 503/1 ม.1 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง หนุ่มพิการทั้งมือและเท้า ขับรถ จยย.พ่วงข้างโดยบังเอิญ ขณะทั้งสองกำลังมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมถลายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และต้องการเข้าเฝ้าถวายบังคมพระบรมศพเป็นครั้งสุดท้าย โดย นายสนิท ต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัวเองลงจากรถ จยย.พ่วงข้าง เพื่อหยุดพักผ่อนขณะเดินทาง ในขณะที่ นางอมลวรรณ นั้นถีบรถจักรยานผ่านมาแล้วแวะพักผ่อนที่ศาลาที่พักผู้โดยสารเช่นกัน ก่อนจะมีการพูดคุยกันโดยพบว่าทั้งสองมีเป้าหมายเดียวกันที่ต้องการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อถวายความอาลัย และเคารพพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในขณะที่มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ทุ่งสง มาให้ความสะดวกทั้งสองในการเดินทางจากผ่าน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี

 

@ชาวบ้าน9.คลองนารายณ์จ.จันทบุรีร่วมลงนามแสดงความอาลัย

ที่วัดทองทั่ว ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จันทบุรี ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลคลองนารายณ์ ทั้ง 14 หมู่บ้าน ได้เดินทางมาร่วมลงนามแสดงความอาลัย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย พร้อมร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมมัตถสังคหะถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งเป็นการสวดแบบประเพณีโบราณ มีพระครู จารุ เขมากร เจ้าอาวาสวัดทองทั่ว พร้อมด้วยพระลำดับภายในวัดร่วมสวดพระอภิธรรม และมี นายณัฐวัฒน์ เรืองชัยโชค นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ เป็นประธานนำผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ ร่วมพิธีหลังเสร็จพิธีสวดพระอภิธรรมมัตถสังคหะ ได้มีการเจริญจิตภาวนา 9 นาที สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ถวายเป็นพระราชกุศล และร่วมจุดเทียนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าโศก ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลคลองนารายณ์ ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น โดยเฉพาะโครงการพระราชดำริบรรเทาแก้ไขปัญหาอุทกภัย หรือ คลองภักดีรำไพ หรือ คลองบายพาส ที่ชาวบ้านเรียกได้ส่งผลดีต่ออาชีพ และการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่