เอี้ยงขอเดินตามรอยพ่อเตรียมตัวเป็นทหารของพระราชา

เอี้ยงขอเดินตามรอยพ่อเตรียมตัวเป็นทหารของพระราชา

เอี้ยงขอเดินตามรอยพ่อเตรียมตัวเป็นทหารของพระราชา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่ม'เอี้ยง-สิทธา' เผยความรู้สึกหลังบวช ตั้งปณิธานทำความดี เดินตามรอยพ่อเตรียมตัวเป็นทหารของพระราชา

7 ทศวรรษแห่งการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความสุขแห่งทวยราษฎร์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จออกทรงพระผนวชด้วยความศรัทธาและเลื่อมใสในพระบวรพุทธศาสนา อีกทั้งเป็นการเข้าถึงแก่นแท้แห่งธรรมเพื่อน้อมนำไปประกอบพระจริยวัตรอันงดงาม พระองค์ทรงพระผนวชตามอย่างสมเด็จพระบูรพามหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์และตามแบบอย่างที่ชาวพุทธพึงกระทำ ด้านพระเอก "เอี้ยง-สิทธา สภานุชาติ" ทางช่อง 8 ที่เพิ่งสึกออกมา ก็ออกมาเปิดเผยความรู้สึกหลังบวช ในงานร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีถวายอาลัย กลางท้องสนามหลวง ที่ผ่านมา

"เอี้ยง-สิทธา" เผยความรู้สึกหลังบวชว่า "ผมได้มีโอกาสได้บวชเป็นพระ อยู่ในพระพุทธศาสนาเป็นเวลา 1 เดือนครับ นอกจากจะบวชทดแทนคุณแม่และอาม่าแล้ว เราได้ความรู้สึกเลื่อมใสในพุทธศาสนามากขึ้น ผมได้เรียนรู้ว่าความสุขที่แท้จริงคือความสงบ ที่ไม่ใช่การมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย ระหว่างการบวชนั้น การนั่งภาวนาจิต มันช่วยทำให้จิตใจของเราสะอาด คนเราต้องฝึกความคิดตัวเอง วันหนึ่งเราคิดกันเป็นร้อยเป็นพันเรื่อง จิตถ้าไม่มีการฝึก มันก็เปรียบเหมือนน้ำที่ไหลจากที่สูงลงที่ต่ำเสมอ เราทุกคนจึงจำเป็นที่จะต้องฝึกจิตตนเองให้สะอาด ฝึกธรรมะแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมแบบเห็นได้ชัดเจนเลย คือ ผมสามารถแนะนำหลักธรรมคำสอนให้แก่คนอื่นได้มาจากการได้ศึกษาได้วิเคราะห์ และสังเคราะห์จนเกิดปัญญา แล้วนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันต่อจากนี้ ใช้สติในการกลั่นกรองทุกเรื่องที่เข้ามา ใจเย็นขึ้น เข้าใจสัจธรรมของชีวิตมากขึ้น ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วล้วนดับไป

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงออกผนวชด้วยความศรัทธาและเลื่อมใสในพระบวรพุทธศาสนา และได้พระราชทานพระราชดำรัสในการเสด็จออกพระผนวชไว้ ว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติของเรา ทั้งตามความศรัทธาเชื่อมั่นของข้าพเจ้า ก็เห็นเป็นศาสนาที่ดีศาสนาหนึ่ง เนื่องในบรรดาสัจธรรมคำสั่งสอนอันชอบด้วยเหตุผล ผมรู้สึกเหมือนประชาชนคนไทยทุกคนที่เกิดมาบนแผ่นดินไทย เราสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ผมรู้สึกว่าพระองค์ท่านเสียสละมากที่สุดแล้วในประเทศนี้ การที่จะสอนคนได้ดีที่สุดก็คือการทำเป็นตัวอย่าง และผมก็เชื่อว่าสิ่งที่พระองค์ท่านทำมาทุกอย่างเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด เราไม่ต้องไปมองใครไม่ต้องสงสัยว่าใครจะเป็นยังไงให้เราดูพ่ออย่างเดียว ทำตามแบบพระองค์ท่าน คิดดี ทำดี พูดดี แบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับเพื่อนร่วมประเทศ ร่วมโลกไปเรื่อย ๆ นั่นถึงจะเป็นแก่นคำสอนของพ่อที่ว่าให้คนไทยทุกคนรักกันและสามัคคีกัน และจะตั้งใจยึดคำสอนเป็นคนดี และในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ผมเตรียมตัวเข้ากรมทหาร เป็นทหารของพระราชา ทำเพื่อประเทศชาติต่อไปครับ"


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook