เสียงจากใจคนดัง ถวายความอาลัยพ่อหลวงบนสรวงสวรรค์

ในห้วงเวลาแห่งความโศกเศร้าของพสกนิกรชาวไทยกับการเสด็จสวรรคตของในหลวง รัชกาลที่ 9

ในฝั่งของเหล่าศิลปินดารา น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ หลายคนการออกมาช่วยเหลือด้วยการแบ่งปันน้ำใจให้คนไทยด้วยกันเอง ทั้งในแง่ของจิตอาสา ช่วยเหลือมูลนิธิการกุศล และโพสต์ข้อความถวายความอาลัยต่อการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของประเทศในครั้งนี้

นักแสดงบางคนที่มีโอกาสได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ ถึงความรักและความจงรักภักดีต่อพ่อหลวงของคนไทย โดยวันนี้ทีมข่าว Sanook! News ได้รวบรวมข้อความที่เปรียบเสมือนเสียงเล็กๆ จากลูก ที่ต้องการบอกพ่อหลวงบนฟากฟ้าสวรรคาลัย  

แอฟ ทักษอร

"ทุกๆ คำสอนที่ท่านพระราชทานให้กับประชาชนในช่วงที่ผ่านมา แอฟมองว่าท่านเป็นเหมือนนักปราชญ์ แนะนำแนวทางการดำเนินชีวิตให้กับชาวไทย ซึ่งสามารถใช้ได้จนถึงปัจจุบัน แอฟเชื่อว่าถ้าทุกคนที่ทำตามหลักคำสอนท่าน สังคมไทยก็จะเป็นสังคมที่ดี สามารถเจริญรุ่งเรืองต่อได้ในอนาคต ในฐานะพสกนิกรชาวไทยคนนึง ลูกคนนี้ก็มีความรักพระราชาพระองค์นี้มาแต่เกิด ลูกคนนี้สัญญาว่าจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด(สะอื้นไห้) จะทำประโยชน์เพื่อสังคม และสอนลูกสาวของแอฟคือน้องปีใหม่ ให้ดำเนินชีวิตตามรอยเท้าของพ่อหลวงต่อไป"

อั้ม อธิชาติ

"ในฐานะคนไทยผมก็ตั้งใจไว้โดยตลอดว่า จะทำตัวให้เป็นประโยชน์ ทั้งกับประเทศ สังคม และผู้อื่น เหมือนอย่างที่พระองค์ท่านทรงปลูกเมล็ดกล้าไว้ในหัวใจของเราทุกคน ซึ่งหน้าที่ของเราต่อจากนี้ก็คือจะต้องส่งต่อความดีให้ลูกๆ หลานๆ ทำให้พวกเขาโตมาเป็นต้นไม้ที่มีรากที่แข็งแรง"

บูม กิตตน์ก้อง

"ถ้าหากไม่มีใครก็จะมีผมนี่แหละครับที่จะดำเนินตามรอยเท้าพ่อ ทำตามคำสอนของพ่อ ทำตามที่ท่านเลยทำเอาไว้ อย่างน้อยก็เป็นการตอบแทนที่ผมได้เกิดในแผ่นดินที่มีรัชกาลที่9 อย่างน้อยก็ได้ให้คนรุ่นหลังเขาได้รู้ว่าท่านรักเรามากแค่ไหน ผมจะอาสาเป็นคนทำดีต่อไปเพื่อพ่อครับ"

หนิง ปณิตา

"(ร้องไห้) วันที่ได้มีโอกาสมากราบหน้าประตูพระบรมมหาราชวัง หนิงตั้งจิตและอธิษฐานเลยว่า วันนี้หนิงทำงานเป็นคนของสื่อ หนิงก็ตั้งใจจะทำตัวเป็นคนดี ปฏิบัติในสิ่งดี ต่อสังคม และพยายามสอนสิ่งที่ท่านเคยสอนให้เราสอนต่อให้กับลูกๆ อย่างที่ท่านอยากให้ลูกๆ ของท่านเป็นคนดี เพราะหนิงเชื่อว่าหากเราทำให้เป็นตัวอย่าง หลายคนก็จะต้องนำตัวอย่างตรงนี้ไปปฏิบัติตามแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาหนิงก็พยายามแต่ก็ยังไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็น"

หมอก้อง สรวิชญ์

"คือทุกวันนี้เราต้องพยายามทำตัวเองให้ดีพอเพื่อที่จะเรียกตัวเองว่าลูกของท่าน (น้ำตาคลอ) ผมบอกตัวเองอย่างนี้ เราต้องพยายามทำตัวเองให้ดี เพราะเรามีพ่อที่ประเสริฐเหลือเกิน ถ้าเรายังไม่ดีอยู่เราก็ละอายใจเหลือเกินที่จะเรียกพระองค์ท่านว่าพ่อ และถ้าเกิดเราจะเรียกพระองค์ท่านได้เต็มปากเต็มคำว่าพ่อแล้ว ลูกคนนี้หรือทุกๆ คนพร้อมที่จะตอบแทนพ่อบ้างไหม และการตอบแทนพระองค์ท่านมันไม่ได้ยาก แค่ทำตัวเองให้ดีที่สุดในแต่ละบทบาทหรือหน้าที่ที่ตัวเองได้รับ โดยไม่เบียดเบียนคนอื่น คำว่าทำดีถวายพ่อใครที่ตั้งใจจะทำก็ทำเลย โอกาสนี้มาถึงแล้ว ไม่อย่างนั้นจะสายไป"

เอกชัย ศรีวิชัย

"ผมพูดไม่ได้ ผมไม่เข้มแข็งพอ (ตอบด้วยน้ำเสียงสั่น) ถ้าสิ่งที่อยากได้ที่สุดที่ทำให้พ่อภูมิใจคืออยากเห็นคนไทยรักกันเหมือนในวันนี้ อยากเห็นคนไทยถือถุงพลาสติกเก็บขยะ อยากเห็นคนขับมอไซด์ฟรีรับส่งคนที่มาร่วมกันส่งเสด็จ ในบรรยายการอำลาอาลัยแบบนี้ ซึ่งมันเป็นวันที่ปลื้มปิติที่สุด ได้เห็นคนมีความรักกัน เรามีสิ่งที่จะตอบแทนคุณงามความดีให้กับพระองค์ท่าน และอยากเห็นสิ่งเหล่านี้ต่อไป ในวันที่เราไม่มีพ่อแล้วอยากเห็นทุกคนปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระองค์ท่านที่รับสั่งไว้ แบบนี้ตลอดไป ซึ่งถ้าพระองค์ท่านได้เห็นก็จะมีความสุข"

ตุ๊กกี้ สุดารัตน์

"พูดจากหัวใจเลยว่า อายุ 38 ปีไม่เคยเจอในหลวง ไม่เคยเห็น ดูแต่ในทีวี ดูภาพถ่าย นั่งรอเสด็จก็แว๊บๆ ไม่เคยเจอเลย แต่ว่าวันที่ได้เห็นชัดที่สุดคือวันที่ท่านครองราชย์ครบ 50 ปี วันนั้นเห็นชัดที่สุด และไม่ได้เห็นอีกเลย และมาทราบอีกทีความรู้สึกเหมือนคนไทยทั้งประเทศคือท่านสวรรคต พระองค์ท่านคงจะดีใจมากที่ประชาชนชาวไทยจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านมากมายค่ะ คำสอนที่ยึดมาทุกวันนี้คือพอเพียงค่ะ เป็นคำที่มีความหมาย ถ้ายึดเอาคำว่าพอเพียงมายึดใช้ในชีวิตปัจจุบันมันดีที่สุดและดีมาก"

ซิโก้ เกียรติศักดิ์

"พ่อไม่ได้ไปไหนไกล อยู่กับเรานี่แหละ ถ้าเรานึกถึงเมื่อไหร่มองขึ้นไปบนฟ้าเพียงแค่เปลี่ยนภพเปลี่ยนภูมิเฉยๆ เพราะพ่อเหนื่อยมาเยอะแล้ว 89 ปี เราโชคดีขนาดไหน เราโชคดีมา 89 ปีแล้วนะ เรายังจะรอให้พ่อช่วยตลอดเวลาอีกเหรอ เราต้องช่วยกันเองแล้ว ต่างประเทศก็ไม่มีใครมาช่วยเราหรอก มีแค่พวกเราที่ต้องมาร่วมช่วยกัน"

นนท์ เดอะวอยซ์

"อยากบอกท่านว่าจะนำคำสอนของพระองค์มาใช้ ต้องบอกว่าเกิดอีกกี่สิบชาติก็ไม่รู้ว่าจะได้เกิดมาเจอมหาราชภูมิพลคนนี้รึเปล่า ผมรู้สึกเป็นบุญเหลือเกินที่เราได้เกิดในแผ่นดินของพระองค์ท่าน ได้เกิดทันพระองค์ท่าน ได้รู้ว่าท่านทรงเหนื่อยกับพวกเรายังไง ดีใจมากจริงๆ แม้เหตุการณ์จะทำให้เราคนไทยรู้สึกเสียดาย แม้จะเคยคิดว่าอยากจะมีโอกาสสักครั้งที่ได้ร้องเพลงถวายหน้าพระพักตร์พระองค์ท่านก็ตามหรือถวายงานพระองค์ท่าน แม้จะไม่มีโอกาสก็ไม่เป็นไร แต่ก็เสียดายอยู่ลึกๆ เรารู้สึกว่าเราผูกพันกับท่านมากจริงๆ แม้จะไม่เคยเจอไม่เคยได้เห็นพระพักตร์ท่านเลยก็ตาม"