ตร.อ่างทองวิสามัญจั๊วดอนรัก มือปืนระดับพระกาฬเพือนเจ็บ

ตำรวจอ่างทองระดมกำลังกว่า 50 นาย ปะทะจั๊วดอนรัก มือปืนพระกาฬ หลังหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเศษชัยชาญ ลงกลางทุ่งนา ตั้งป้อมยิงกับตำรวจ สุดท้ายถูกวิสามัญดับ ตรวจพบสวมเสื้อเกาะติดตัว พร้อมปืน 2 กระบอก

เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 5 ก.พ.52 พ.ต.อ.ธนศักดิ์ ปานแย้ม ผกก.สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ได้รับแจ้งจาก ร.ต.อ.วิบูลย์ แสงนาค รองสวส.สภ.วิเศษชัยชาญ ขอกำลังสนับสนุนบริเวณกลางทุ่งนา หมู่ที่ 12 ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หน้าสถานีไฟฟ้าย่อย อ.วิเศษชัยชาญ เนื่องจากมีคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หลังจากรับแจ้งจึงเรียกกำลังสนับสนุน และเดินทางไปสบทบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ภ.จว.อ่างทอง พ.ต.อ.ชรินทร์ ทับพันธุ์บุบผา รองผบก.ภ.จว.อ่างทอง และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า จากสภ.วิเศษชัยชาญ สภ.โพธิ์ทอง สภ.บางจัก ชุดสืบภ.จว.อ่างทอง 50 นาย เข้าสมทบในที่เกิดเหตุ  

ในที่เกิดเหตุพบว่า กลางทุ่งนานายวิเชียร พิกุลขาว อายุ 43 ปี หรือจั๊วดอนรัก มือปืนคนสำคัญของจังหวัดอ่างทอง ได้นอนหมอบอยู่ในนาข้าว และใช้อาวุธปืนสั้นยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปิดล้อมอยู่หลายสิบนัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้อาวุธปืนสั้น และปืนยาวยิงตอบโต้กับนายวิเชียร อยู่ประมาณ 40 นาที จากนั้นนายวิเชียร ได้เงียบหายไป จึงได้เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่

จากการตรวจสอบพบศพนายวิเชียร นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต ค้นภายในตัวพบว่านายวิเชียร ได้สวมใส่เสื้อเกาะของทหาร และในมือกำอาวุธปืนขนาด .38 เอาไว้แน่น ซึ่งภายในลูกโม่ยังพบกระสุนปืนที่ถูกยิงไปแล้ว 5 นัดเหลืออีก 1 นัดที่ยังไม่ได้ยิง และบริเวณข้างตัวยังพบอาวุธปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก ส่วนรอบๆบริเวณทุ่งนา พบกระสุนปืนขนาด 11 มม. และขนาด .38 ตกอยู่เป็นจำนวนมาก

หลังจากตรวจสอบสภาพศพ พบว่า นายวิเชียร ถูกยิงเข้าที่หน้าอก 1 นัด โดยกระสุนปืนได้ทะลุบริเวณซิบของเสื่อเกาะ ทะลุไปตัวขั้วหัวใจทำให้เสียชีวิตคาที่ นอกจากนั้นยังพบรอยซ้ำของกระสุนปืนบริเวณลำตัวหลายนัด ส่วนบริเวณเอวพบว่า นายวิเชียร ได้ใส่ตระกรุดคาดไว้ที่เอวเป็นจำนวนมาก

หลังจากเข้าตรวจสอบสภาพศพเสร็จแล้ว พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ได้เรียกตำรวจวิทยาการ แพทย์ อัยการจังหวัด ปลัดอำเภอวิเศษชัยชาญ เข้าทำการชันสูจน์พลิกศพ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบสวน ร.ต.อ.วิบูลย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วิเศษชัยชาญ ได้สืบทราบว่า นายวิเชียร และนายเมธี สะอาดศรี หรือพจน์ยี้ล้น อายุ 43 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นมือปืนตัวพระกาฬ และเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำมาหมาดๆ ซึ่งนายวิเชียร ถูกจับในคดียิงผู้ใหญ่บ้านใน ต.ไผดำ อ.วิเศษชัยชาญ ส่วนนายเมธี ก่อคดียิงนายกมล เสมอเหมือน อดีต ส.ส.อ่างทอง และกำลังจะมีความเคลื่อนไหวบางอย่างใน จ.อ่างทอง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ติดตามแกะรอย และทราบว่า ทั้ง 2 คน ได้มาหลบอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 70/5 หมู่ที่ 12 ต.ศาลเจ้าโรงทอง ซึ่งเป็นบ้านของ ส.อ.ประสงค์ ศรีประเสริฐ ทหารใน จ.ปราจีนบุรี ซึ่งระหว่างเกิดเหตุ ส.อ.ประสงค์ ไม่อยู่บ้านมีเพียง นางสศิชล ศรีประเสริฐ อายุ 23 ปี ลูกสาวของ ส.อ.ประสงค์ และเป็นแฟนของนายเมธี จึงเข้าตรวจค้นแต่นายวิเชียร ได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนวิ่งหลบหนีลงทุ่งนา ส่วนนายเมธีถูกจับกุมได้

ด้านนางสศิชล กล่าวว่า ตนเพิ่งคบกันเป็นแฟนกับนายเมธี และไม่เคยรู้ว่านายเมธี เป็นใคร โดยก่อนเกิดเหตุตนอยู่บ้านกับนายเมธี ระหว่างนั้นนายวิเชียร ได้มาหานายเมธี ที่บ้านพัก และนั่งคุยกันอยู่ ตนก็ไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไร จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาขอค้นบ้าน เพื่อหานายเมธี และเมื่อนายวิเชียร เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็หลบหนีออกมา ทำให้เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามไป ส่วนนายเมธี ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจล็อคตัวเอาไว้ได้

ขณะที่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า คนร้ายเป็นมือปืนตัวพระกาฬ ที่มีความโหดเหี้ยมมาก นอกจากจะก่อคดีฆ่าผู้อื่นแล้ว ยังต้องสงสัยเกี่ยวพันกับสิ่งผิดกฎหมายอย่างอื่นอีกมาก และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนร้ายไม่ยอมให้จับเป็นแน่นอน เพราะได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องตัดสินใจยิงตอบโต้ โดยก่อนหน้านี้ก็ได้บอกให้คนร้ายมอบตัวแต่คนร้ายสู้ตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะตะโกนบอกให้คนร้าย ทำการมอบตัว แต่คนร้ายก็ไม่ยินยอม และพยายามคลานหลบหนี และพลิกตัวหนี ในนาข้าวอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลาอีกเช่นกัน ซึ่งสร้างความแตกตื่นเป็นอย่างมากกับชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์