ตู่-นพพลสุดปลาบปลื้มพระองค์เคยรับสั่งถามถึงแม่

'ตู่ นพพล' ภูมิใจเคยถวายงานในหลวง สุดปลาบปลื้มพระองค์เคยรับสั่งถามถึงแม่ ตอนไปถวายงานพากษ์หนังในวัง ขอยึดคำสอนเป็นคนน้ำไม่เต็มแก้ว

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมาในงานแถลงข่าวเปิด "ภาพยนตร์สารคดี King Bhumibol of Thailand : The People's King ในหลวงในดวงใจ" ทั้งนี้ นักแสดงรุ่นใหญ่ ตู่-นพพล ที่ครั้งนี้ได้รับเกียรติมาเป็นผู้บรรยายในสารคดีครั้งนี้ และสมัยหนึ่งยังเคยได้ถวายงานแด่ในหลวงอีกด้วย

ถามถึงเรื่องราวเกี่ยวกับในหลวงเจ้าตัวบอก "ตั้งแต่เด็ก ก็ดูข่าวในพระราชสำนึก ก็ดูไปงั้นๆ ไม่คิดอะไร แต่แม่บอกให้ดูๆ ไป เพราะเราจะได้ประโยชน์จากตรงนี้ ก็ได้เห็นพระองค์ท่านได้เสด็จไปทุกภาค ทั่วมุมของประเทศไทยเหมือนกัน และคำถามที่อยู่ในใจตอนนั้น คือ ทำไม? ทำไมพระองค์ท่านต้องเสด็จไปด้วย นั่นคือความรู้สึกของตอนยังเป็นเด็ก แต่พอโตขึ้นมา ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น ถึงได้รู้ว่า ทุกที่ที่พระองค์เสด็จไป แสดงว่าตรงนั้นมีปัญหาอยู่ และพระองค์ก็ทรงไปเพื่อแก้ปัญหา เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีอาชีพที่ดีขึ้น และสามารถช่วยตนเองได้"

"ครั้งหนึ่งเคยได้ถวายงานแด่พระองค์ท่าน เป็นพิธีกรงานคอนเสิร์ตของ "หม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ" ซึ่งเป็นพระสหายของท่าน ตอนนั้นได้เป็นพิธีกรหลัก และตอนนั้นในหลวงกับสมเด็จพระราชินีเสด็จ รวมถึงราชวงศ์ทุกพระองค์เลย ทุกคนก็จะแซวว่า "เป็นคนเปิดงาน นำดีๆ น่ะ ถ้ามีข้อผิดพลาด คนอื่นแย่หมดเลยน่ะ" (หัวเราะ) ก็เลยทำให้เกร็ง กลัว และตั้งใจมาก ตอนนั้นก็ตั้งสมาธิความรู้สึกทั้งหมดว่า พระองค์ท่านคงไม่ว่าหรอก ถ้าจะมีผิดบ้าง ทั้งนี้เจ้าตัวกล่าวต่อว่า งานในวันนั้นก็ได้ผ่านไปได้ด้วยดี พระองค์ท่านเดินมาถามว่า เป็นไงเหนื่อยไหม เป็นพิธีกร ตอนนั้นรู้สึกสั่นไปทั้งตัวเลย และแล้วพระองค์ท่าน ก็ได้ลงมานั่งข้างๆ และถามว่า แม่เป็นอย่างไร สบายดีไหม คิดถึงแม่น่ะ คิดถึงตอนที่แม่ของเจ้ามาพากษ์หนังให้ดู พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็จะทรงแย้มพระสรวลให้ และเสด็จราชดำเนินต่อไป แค่นี้ก็ดีใจแล้วสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งในชีวิตที่เป็นปลื้มมากๆ"

ถามถึงเรื่องที่แม่ได้ไปพากษ์หนังถวายในหลวง เป็นเรื่อง "แม่นาค พระโขนง" "ตอนนั้นพระองค์ท่านจะประทับอยู่ที่โซฟา และทีมนักพากษ์ก็จะนั่งกับพื้น และพากษ์กันสดๆ เดี๋ยวนั้นเลย และในหลวง ก็มีพระราชดำรัสว่า "พากษ์แบบที่ชาวบ้านเขาดูกันนะ ไม่ต้องเกร็งใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเราอยากสนุกด้วย" ถือเป็นบุญกับชีวิตมาก ที่ได้มีโอกาสถวายงานทั้งคุณแม่ และกับตัวเอง และท่านก็ไม่เคยลืมแม่ ที่มีอาชีพเป็นเพียงนักพากษ์หนังธรรมดา ซึ่งตัวเองที่เป็นพิธีกร ท่านมีความห่วงใยว่าเหนื่อยไหม แค่นี้ก็ถือว่ามีบุญต่อชีวิตแล้ว และตอนนี้ก็ได้นำพระราชดำรัสของพระองค์ที่ว่า "จงทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้ว" มาใช้ เพราะถ้าเราทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วแต่ต้น แล้วหากมีใครสอนเรา ก็จะมีแต่ล้น หรือเสียหายไป เพราะฉะนั้น ทำตัวให้เป็นน้ำครึ่งแก้ว เพื่อที่จะเพิ่มได้อีก"

"ก่อนหน้านี้ได้เคยทำละครเทิดพระเกียรติมาแล้ว และเป็นนักแสดงในละครเทิดพระเกียรติในหลายๆ เรื่อง ล่าสุดที่ Workpoint ก็ได้ออกเพลงของพ่อไป ก็ถือว่าเหมือนๆ กัน และล่าสุดนี้ สิ่งที่ได้ทำไปเกือบ 10 ปีแล้ว คือ ละครเทิดพระเกียรติ เป็นละครยาวเลย เรื่อง "สายน้ำ 3 ชีวิต" ซึ่งละครเรื่องนี้จะเกี่ยวกับพระองค์ท่านเลย เรื่องนี้เป็นละครที่รักมาก และภูมิใจที่ได้ทำ และอะไรที่เกี่ยวกับในหลวง ก็พร้อมที่จะทำทุกอย่าง สุดท้ายก็อยากบอกทุกคนว่าอย่าโศกเศร้า เพราะพระองค์ท่าน คงอยากเห็นเราก้าวเดินต่อไปกันมากกว่า เพื่อพี่พ่อมองลงมา พ่อจะได้ยิ้มได้