พ่อไม่ยอมเผาศพ ลูกชายวัย 15 ถูกตำรวจยิงตายวันลอยกระทง

พ่อไม่ยอมเผาศพ ลูกชายวัย 15 ถูกตำรวจยิงตายวันลอยกระทง

พ่อไม่ยอมเผาศพ ลูกชายวัย 15 ถูกตำรวจยิงตายวันลอยกระทง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(17 พ.ย.) นายประเสริฐ อายุ 60 ปี และนางกัลยากร อายุ 43 ปี สองสามีภรรยา ชาว ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมญาติได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม กรณีที่ น้องคิง บุตรชายอายุ 15 ปี ถูกดาบตำรวจสมชาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูเมือง ใช้อาวุธปืนประจำกายขนาด 9 มม. ยิงเข้าบริเวณกลางหลังทะลุหน้าอกเสียชีวิต บริเวณข้างปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งถนนสายคูเมือง - พุทไธสง อ.คูเมือง ในคืนวันลอยกระทง (14 พ.ย.59) ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และครูซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ในวันเกิดเหตุ พร้อมยืนยันจะไม่เผาศพลูกชายจนกว่าจะดำเนินคดีกับตำรวจ และครูที่ร่วมกันก่อเหตุให้ถึงที่สุด พร้อมเรียกร้องให้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนด้วย เพราะเกรงจะมาข่มขู่พยานหรือยุ่งกับพยานหลักฐาน

ขณะที่น้องปลื้ม อายุ 15 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิตที่โดนคมกระสุนปืนของดาบตำรวจ บริเวณกลางหลังได้รับบาดเจ็บก็มาไหว้ศพเพื่อนด้วยความอาลัย พร้อมเล่าเหตุการณ์คืนเกิดเหตุให้ฟังด้วย ก่อนเกิดเหตุคืนวันที่ 14 พ.ย. ตนพร้อมนายคิง ผู้เสียชีวิต และ ด.ช.แฟ้ม อายุ 14 ปี ได้ขับขี่รถจักรยานซ้อนกัน 3 คน ไปงานศพเพื่อนที่บ้านหนองหว้าในตำบลเดียวกัน หลังเสร็จจากงานศพก็พาขับขี่รถจักรยานกับกลุ่มเพื่อนประมาณ 30 คน รถจักรยานยนต์ 15 คัน ไปเที่ยวงานลอยกระทง
ระหว่างทางได้มีกลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้านมาดักทำร้ายจนเกิดเหตุทะเลาะวิวาทย์กัน บริเวณหน้าทางหมู่บ้านหนองหว้า จากนั้นดาบตำรวจสมชายซึ่งบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นเหตุการณ์ จึงได้มาไล่กลุ่มวัยรุ่นที่ทะเลาะวิวาทย์จึงได้แยกย้ายกัน

จากนั้นตนกับเพื่อนก็ขับ จยย.ซ้อน 3 โดยมี ด.ช.แฟ้มเป็นคนขับตนนั่งกลาง ส่วนนายคิงนั่งด้านหลัง เข้ามาในซอยข้างปั้มน้ำมันโดยไม่ได้สังเกตว่ามีใครขับรถตามหลังมาหรือไม่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จึงได้พากันขับรถออกจากปั้มน้ำมันโดยไม่รู้ว่าเพื่อนถูกยิงเสียชีวิต และกระสุนได้ทะลุมาถูกด้านหลังตนเอง ได้รับบาดเจ็บด้วย น้องปลื้ม ยังได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับเพื่อนด้วยว่า ตนกับเพื่อนไม่ได้ทำอะไรผิด แต่กลับมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต ซึ่งตนมองว่าไม่ถูกต้องที่ตำรวจจะมายิงเยาวชนแบบนี้ พร้อมยืนยันจะไปให้การกับพนักงานสอบสวน เพื่อเรียกความเป็นธรรมให้กับเพื่อนที่เสียชีวิต

ขณะที่นายประเสริฐ ระเบียบรัมย์ ผู้เป็นพ่อกล่าวทั้งน้ำตาว่า จะไม่ยอมเผาศพลูกชายจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม หรือมีการดำเนินคดีกับตำรวจ และครูตามกฎหมายจนถึงที่สุด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับที่ตนเองต้องสูญเสียลูกชายทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด มองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะตำรวจเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่กลับมาทำกับเยาวชนแบบนี้จึงอยากเรียกร้องให้ดำเนินคดีถึงที่สุด

ทั้งนี้ล่าสุดทราบว่าดาบตำรวจสมชาย และครู ซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ในคืนเกิดเหตุได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.คูเมือง แล้ว เบื้องต้นได้ถูกแจ้งข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" ซึ่งล่าสุดได้ถูกส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook