กาละแมร์แฮปปี้ลงพื้นที่ปลูกข้าวตามรอยคำสอนพ่อ

กาละแมร์แฮปปี้ลงพื้นที่ปลูกข้าวตามรอยคำสอนพ่อ

กาละแมร์แฮปปี้ลงพื้นที่ปลูกข้าวตามรอยคำสอนพ่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'กาละแมร์' แฮปปี้ลงพื้นที่ปลูกข้าวตามรอยคำสอนพ่อ ฟุ้งเข้าโครงการซื้อข้าวจากชาวนา ดีใจได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลืออยากให้ชาวนาฐานะดีขึ้น

พิธีกรสาวสุดแซ่บ กาละแมร์-พัชรศรี ล่าสุดเดินทางมาที่งาน beger ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มอิ่มเอม และทางด้านเจ้าตัวก่อนหน้านี้ลงพื้นที่ถ่ายรายการ สามแซ่บ ถึงพื้นที่ชาวหน้าเพื่อลงไปใช้ชีวิตแบบพอเพียงตามรอยพ่อนั้นเอง 

ล่าสุด กาละแมร์ เผยไปถ่ายรายการ เป็นไปดูโครงการสิ่งที่พระองค์ท่านต้องทำถือว่าเป็นพระภูมิปัญญาที่พระองค์ท่านได้ถ่ายทอดให้กับประชาชนชาวไทย เรียกง่ายๆ ว่า เรามีคู่มือการทำมาหากินที่พระองค์ท่านได้คิดค้นว่าหากจะทำการเกษตรจะมีวิธีไหนบ้าง เพื่อให้เราลงทุนน้อยที่สุดและได้ผลตอบแทนมากที่สุด และสามารถพออยู่พอกินได้ ส่วนตัวคิดว่าพอได้เห็นสิ่งที่พระองค์ท่านได้ทำเป็นตัวอย่าง และสิ่งที่พระองค์ท่านได้เสียสละพระวรกาย และความสามารถของพระองค์เองทำให้คนไทยโชคดีมาก 

เรียกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวของชาวบ้านและโรงเรียนสอนการเกษตร ก็จะมีให้คนเข้ามาทดลองการเป็นเกษตรกรเป็นเวลา 5-6 เดือน ดั้งนั้นก็จะรู้ว่าถ้ามีที่อยู่หนึ่งผืนจะทำอะไรได้บ้าง และทุกอย่างที่เราทำก็สามารถวนเวียนไได้ เช่น มูลสัตว์ก็มาทำปุ๋ยได้ อาหารก็สามารถหากินได้ในพื้นที่ของเราเอง นี่คือพระราชปณิธานของพระองค์ท่านที่อยากจะให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  

ตอนที่ไปถ่ายรายการรับมีความรู้สึกอยากทำ รู้เลยว่าหากมีความสนใจในด้านนี้และหากหลายๆ คน รู้สึกว่าเบื่อเมืองแล้ว หากใครที่มีที่อยู่แล้วเชื่อวาหลายคนหากได้ดูและศึกษาวิถีของเกษตรกรจริงๆ จะได้ทราบเลยและกลับบ้านดีกว่า เพราะจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวจะได้พัฒนาผืนดีที่มีให้เป็นทรัพย์ที่งอกขึ้นมาได้ พอเราได้มาเรียนด้วยตัวเองแล้ว ก็ทราบถึงวิธีทำว่าทำแบบไหนได้ถามคนที่มาเรียนแต่ละคนก็ดีใจ เพราะคนเหล่านั้นได้กลับไปบ้านเกิดเมืองนอน และได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว และไม่ต้องกดดันกับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ที่ค่าครองชีพสูง ได้ใช้ชีวิตในที่ที่อากาศบริสุทธิ์

ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้มีโอกาสได้ลองไปทำนาดำบ้างแล้ว ทราบเลยว่าชาวนาเป็นกระดูกสันหลังที่สำคัญของชาติมาก เริ่มเข้าใจมากขึ้น และได้ไปโรงเรียนสอนการเกษตรด้วย ก็เลยทราบว่า กว่าจะได้ข้าวมาหนึ่งต้น มันยากมาก ต้องตั้งใจทุ่มเทเเรงกายแรงใจมากๆ แต่ที่สำคัญคือ อยากให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้ มีเงินทองเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ ไม่อยากให้ชาวนายากจนอีกต่อไป

เรื่องโครงการเจ้าตัวได้เข้าโครงการผูกปิ่นโตข้าว เป็นโครงการที่มีตัวกลางที่เรียกว่า แม่สื่อ และจะช่วยเหลือชาวนาที่เรียกว่า เจ้าบ่าว และเรียกคนซื้อว่า เจ้าสาว แม่สื่อมีหน้าที่ทำให้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวมาเจอกัน แต่มีข้อแม้ต้องทำนาแบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี เพราะฉะนั้นในโครงการนี้จะชวนชาวนามาทำนาแบบอินทรีย์โครงการจะมีการรับประกันการซื้อ และเจ้าตัวเองในฐานะคนซื้อก็อุดหนุนข้าวจากชาวนา เหมือนเป็นการช่วยชาวนา


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook