มติครม.5ธ.ค.วันหยุดคล้ายวันพระราชสมภพร.9-เพิ่มหยุดยาว2-3ม.ค.

คณะรัฐมนตรีมีมติ ให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันหยุดคล้ายวันพระราชสมภพ รัชกาลที่9 พร้อมเห็นชอบเพิ่มวันหยุดปีใหม่ 2 - 3 ม.ค. 2560 ขณะรับทราบมติปรับค่าแรงขั้นต่ำ 69 จว. เพิ่ม 5 - 10 บาท

พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเปลี่ยน วันที่ 5 ธันวาคม จาก วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และยังคงเป็นวันหยุดราชการตามปกติ รวมถึงมีพระราชพิธีและกิจกรรมสำคัญ โดยชื่ออย่างเป็นทางการจะมีเอกสารออกมาอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี ยังมีมติอนุมัติให้เพิ่มวันหยุดชดเชยช่วงปีใหม่ ในวันที่ 2 - 3 มกราคม 2560 ซึ่งจากเดิมตามปกติจะหยุดเพียง วันที่ 31 ธันวาคม 2559 และ 1 มกราคม 2560 เท่านั้น ทำให้ช่วงปีใหม่มีวันหยุดยาวรวมทั้งหมด 4 วัน

 

ครม.รับทราบมติปรับค่าแรงขั้นต่ำ 69 จว.

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ว่า ที่ประชุมรับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง ในการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ รวม 69 จังหวัด ตั้งแต่ 5 - 10 บาท โดยให้มีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป โดยมี 8 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา ระนอง และสิงห์บุรี คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ระดับปัจจุบันที่ 300 บาท 

ส่วน 7 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ภูเก็ต สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ปรับอัตราสูงสุดที่ 10 บาท เป็น 310 บาท จาก 300 บาท ส่วน 13 จังหวัด ปรับขึ้น 8 บาท เป็น 308 บาท ส่วนอีก 49 จังหวัด ที่เหลือ ปรับขึ้น 5 บาท เป็น 305 บาท ต่อวัน

 

ครม.อนุมัติช่วยผู้มีรายได้น้อยไม่เกินแสน/ปี

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติ มาตรการช่วยผู้มีรายได้น้อยที่อยู่นอกภาคเกษตร ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ โดยครอบคลุมผู้มีรายได้น้อย 5.4 ล้านคน วงเงินในการดำเนินการ 12,750 ล้านบาท ซึ่งจะจ่ายผ่านธนาคารกรุงไทย ออมสิน และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. โดยจะเริ่มจ่ายเงินตั้งแต่วันที่ 1 - 31 ธันวาคมนี้ โดยผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท และผู้ที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ได้รับเงินช่วยเหลือ 1,500 บาท

 

ครม.เห็นชอบโครงการค้ำประกันสินเชื่อSME

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง เสนอโครงการค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทวีทุน ระยะที่ 6 ทั้งนี้ ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2561 และปีต่อ ๆ ไป ตามประมาณการค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในแต่ละปี 

สำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าวนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้มากขึ้น ผ่านกลไกการค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. โดยเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่สถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมาย และสร้างแรงจูงใจให้สถาบันการเงินใช้บริการค้ำประกันสินเชื่อกับ บสย. 

ในส่วนของคุณสมบัตินั้น เป็นเอสเอ็มอีทีมีทรัพย์สินถาวรไม่รวมที่ดินไม่เกิน 200 ล้านบาท ประเภทบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ที่มีสัญชาติไทย และประกอบกิจการโดยชอบด้วยกฎหมาย และต้องไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดี ระยะเวลาค้ำประกัน 10 ปี วงเงินค้ำประกัน 100,000 ล้านบาท ไม่เกิน 40 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน ทั้งนี้ คาดว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน 33,000 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินรวม 168,000 ล้านบาท และก่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 458,000 ล้านบาท

 

นายกฯสั่งจัดกิจกรรมลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง30พ.ย.นี้

พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมประชุมนานาชาติกิจกรรมทางกาย และผลวิจัยพบว่าเด็กและผู้สูงอายุมีกิจกรรมเนือยนิ่ง ทั้งการดูทีวีและเล่นไอแพด ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงเห็นควรให้จัดกิจกรรมเพื่อลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง และเพื่อให้ข้าราชการและสื่อมวลชนมีความพร้อมในการทำงาน

อย่างไรก็ตาม กิจกรรมดังกล่าว จะจัดในวันพุธที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 15.00 - 16.30 น. โดยข้าราชการและสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลจะจัดกิจกรรมออกกำลังกายบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ขณะที่ แต่ละกระทรวงและหน่วยราชการต่างๆ ก็จัดขึ้นพร้อมกันด้วย

 

รบ.อนุมัติยกเว้นค่าธรรมเนียมตรวจดวงตราวีซ่า

พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า วันนี้ได้มีการอนุมัติมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจดวงตราวีซ่า ณ สถานทูต หรือสถานกงศุลไทย และปรับลดค่าธรรมเนียมการลงตรา ณ ช่องทางอนุญาติของด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราว โดยการปรับลดค่าธรรมเนียมการลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองนั้น ใช้ได้ครั้งเดียว จำนวนทั่งหมด 19 ประเทศ อาทิ ภูฐาน ไซบีเรีย อินเดีย คาซักสถาน มัลดีฟ ไต้หวัน ยูเครน ฯลฯ จาก 2,000 บาท เหลือ 1,000 บาทต่อคน เป็นการชั่วคราว

ทั้งนี้ การดำเนินการทั้ง 2 มาตรการ จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2560