ประยุทธ์เร่งกำจัดผักตบ-ห่วงปชช.ประสบภัยหนาว

ประยุทธ์เร่งกำจัดผักตบ-ห่วงปชช.ประสบภัยหนาว

ประยุทธ์เร่งกำจัดผักตบ-ห่วงปชช.ประสบภัยหนาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ยืนยัน เร่งแก้ปัญหาผักตบชวา รับเป็นห่วงสุขภาพประชาชนช่วงฤดูหนาว กำชับหน่วยงานรัฐช่วยเหลือตามแผน พร้อมระบุ 2 ปี ส่งเสริมการลงทุน 2.2 ลล.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน" ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า "ศาสตร์พระราชา" ให้ความสำคัญกับทุกเรื่อง ทั้งใหญ่ - เล็ก เช่น การแก้ปัญหา "ผักตบชวา" โดยที่คนส่วนใหญ่มองผักตบชวาว่า "ไร้ค่า ไม่มีราคา" แต่หากเรารู้จักมองแล้ว ก็จะเห็นคุณค่าสามารถนำมาแปรรูป เกิดประโยชน์เป็นผลิตภัณฑ์ เช่น กระเป๋าสานด้วยมือ, อาหารสัตว์ หรือปุ๋ยหมัก  "แปลงสวะ วัชพืช ให้เป็นทุน ให้เป็นเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เลี้ยงครอบครัวได้ ปัจจุบันผักตบชวากว่า 6 ล้านตัน ทั่วประเทศ กำลังก่อให้เกิดปัญหา และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน จึงมีมติเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง จัดกิจกรรมรณรงค์ “จิตอาสาประชาร่วมใจแก้ไขปัญหาผักตบชวา” ให้เป็นกิจกรรมหลัก เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทย ในวันที่ 4 ธันวาคม นี้ พร้อมกันในทุกจังหวัดทั่วประเทศ

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ทิ้งท้ายว่า ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วอากาศเปลี่ยนแปลง รัฐบาลมีความห่วงใย อยากให้ประชาชนในทุกภาคของประเทศ ดูแลสุขภาพตนเอง และลูกหลาน รักษาร่างกายให้อบอุ่น พร้อมกำชับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน เข้าไปให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนจากภัยหนาว ตามแผนงานที่ได้ตระเตรียมไว้ 

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลการดำเนินการของรัฐบาลในช่วง 2 ปี (2557 -2559) ภายใต้วิสัยทัศน์ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้

1. มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน กว่า 5,000 โครงการ มูลค่าลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท
2. โครงการที่ขอรับการส่งเสริม คิดเป็นร้อยละ 54 ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้ง การลงทุนด้านดิจิทัล ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
3. การส่งเสริมการรวมกลุ่มจังหวัดเป็นคลัสเตอร์ โดยคณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ ช่วยให้สามารถค้นหา “อัตลักษณ์” ในแต่ละพื้นที่และภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ข้าวหอมมะลิไทยได้รางวัลรสชาติดีที่สุดในโลก ครองอันดับ 1 ปี 2016 ในการประกวดข้าวระดับโลก ด้วยเกณฑ์การตัดสิน 4 ด้านหลัก ได้แก่ กลิ่น, รสชาติ, ความเหนียวนุ่ม และรูปร่างลักษณะ โดยคณะกรรมการตัดสิน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร, สมาคมบริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับการทำอาหารในสหรัฐฯ และพ่อครัวที่มีชื่อเสียงจากประเทศต่าง ๆ ร่วมกันเป็นกรรมการ นับว่าเป็นกำลังใจให้กับชาวนาไทยและคนไทยทุกคน 

ทั้งนี้ ก็ขอให้พี่น้องเกษตรกร และผู้ที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันรักษาและปรับปรุงมาตรฐานข้าวหอมมะลิ เพื่อเพิ่มมูลค่าด้วยคุณภาพ ซึ่งมีความแตกต่างให้ได้ในอนาคต รวมทั้งข้าวพันธุ์ต่าง ๆ ของไทย ให้เป็นที่นิยม มีคุณภาพดี เป็นเกษตรอินทรีย์ สำหรับคนไทย และผู้บริโภคทั่วโลก 



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook