นายกฯติดตามน้ำท่วมใต้ใกล้ชิด-นครศรีฯจม18อ.ตาย6

นายกฯติดตามน้ำท่วมใต้ใกล้ชิด-นครศรีฯจม18อ.ตาย6

นายกฯติดตามน้ำท่วมใต้ใกล้ชิด-นครศรีฯจม18อ.ตาย6
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'พล.ท.สรรเสริญ' เผย นายกรัฐมนตรี ติดตามน้ำท่วมภาคใต้ใกล้ชิด สั่งระดมจนท.เร่งช่วยเหลือประชาชน ขณะที่ นครศรีฯ อ่วม! จม 18 อำเภอ ตาย 6 ราย ส่วน สงขลาท่วม ดับ 2 เร่งอพยพ ด้าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หนักสุดรอบ 10 ปี

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีอุทุกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ในขณะนี้ ว่า นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่บูรณาการร่วมกัน เช่น ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตของกระทรวงมหาดไทย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 และจังหวัดที่ประสบภัย เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ระดมกำลังลงไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้ประสบภัยเกิดความอุ่นใจและดำเนินชีวิตอย่างเป็นปกติมากที่สุด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายเพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ขณะเดียวกัน กระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน ทั้งการสำรวจพื้นที่ประสบภัย วิธีช่วยเหลือที่เหมาะสม จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าติดตามประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด


นครศรีฯอ่วมจม18อ. มีตาย6,สงขลาท่วมดับ2เร่งอพยพ

สภาพพื้นที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะอุทกภัยที่ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณฝนที่ตกหนักตลอด 4 วันที่ผ่านมา เบื้องต้นพบปริมาณฝนสะสมกว่า 200 มม. ในทุกพื้นที่โดยเฉพาะแถบเทือกเขาหลวง ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม หลายชุมชนต้องใช้เรือออกมาซื้ออาหาร ด้าน นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยืนยันว่าขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 18 อำเภอ 161 ตำบล 1,245 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 234,158 คน 97,944 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน ล่าสุด จมน้ำเสียชีวิตในพื้นที่บ้านท่าแพ ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช เฉพาะในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มีน้ำท่วม 36 ชุมชน ปัจจุบันอพยพประชาชนไปพักที่โรงเรียน หนักสุดบริเวณถนนพัฒนาการคูขวาง และซอยต่าง ๆ คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 2 วัน สถานการณ์น่าจะคลี่คลาย นอกจากนี้ยังเกิดเหตุไฟฟ้าช็อตคนเสียชีวิตในท้องที่ หมู่ 4 ต.นาสาร อ.พระพรหม อีก 1 ราย โดยผู้เสียชีวิตคือ นายพงศ์ศักดิ์ หรือ โอ๊ต ชื่นพจน์ ถูกกระแสไฟฟ้าช็อตใกล้คอกวัว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการสอบสวน


ฝนถล่มสงขลาท่วม6อ.เสียชีวิต2-เร่งอพยพคน

ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สงขลา โดยเฉพาะที่ อ.สะบ้าย้อย ซึ่งได้รับผลกระทบหนักสุด ขณะนี้ได้มีการอพยพชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านแลแบง ต.สะบ้าย้อย เพิ่มเป็น 37 ครัวเรือน จำนวนประชากร เกือบ 70 คน ออกมาอาศัยอยู่ที่ศาลาประชาคมอำเภอสะบ้าย้อย เป็นการชั่วคราว เนื่องจากบ้านเรือนถูกน้ำท่วม ขณะที่ทางอำเภอสะบ้าย้อยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือด้านสิ่งอำนวยความสะดวก สาธารณูปโภค อาหารและยารักษาโรค แก่ชาวบ้านที่อพยพทั้งหมดซึ่งอาจจะต้องอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพอีก 2-3 วันจนกว่าน้ำจะลดลง ส่วนสภาพน้ำในพื้นที่บ้านแลแบงขณะนี้ยังท่วมขังอยู่ในหมู่บ้านทั้งสองฝั่งถนนแต่น้ำเริ่มลดลง โดยมีชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือนที่ถูกน้ำท่วมจากจำนวนทั้งหมด 200 ครัวเรือน ส่วนภาพรวมของสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สงขลา ล่าสุดสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.สงขลา รายงานว่ามีพื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วม 6 อำเภอจาก 16 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง หาดใหญ่ นาหม่อม สะบ้าย้อย สะเดา และอ.ระโนด และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน เป็นเด็กหญิงวัย 5 ขวบทั้งสองคน ซึ่งเสียชีวิตจากการจมน้ำใน ต.ปาดังเบซาร์ และต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา แต่ทุกแห่งเริ่มคลี่คลายจากฝนที่เริ่มหยุดตก 

อย่างไรก็ตาม จากระบบประเมินสถานการณ์เพื่อการเตือนภัยน้ำท่วม จังหวัดสงขลา เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ของวันนี้พบว่าใน 4 ลุ่มน้ำสำคัญของจังหวัด ได้แก่ ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา ลุ่มน้ำคลองนาทวี ลุ่มน้ำคลองภูมี และลุ่มน้ำคลองมำบัง ทุกจุดอยู่ในภาวะปกติ


พัทลุงฝนตกหนักน้ำท่วมหลายจุด-ผู้ว่าฯถกด่วน

สภาพฝนตกหนักในรอบ 10 ปี ที่ จ.พัทลุง ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมหลายจุด ระดับน้ำสูงไหลทะลักเข้าเขตพื้นที่เศรษฐกิจ ล่าสุดฝนยังไม่หยุดตก เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานต้องช่วยอพยพชาวบ้าน ใน ต.ชะม่วง อ.ควนขนุน, ชาวบ้านตำบลนาโหนด อ.เมือง และชาวบ้านหมูที่ 2, 3 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จำนวนหลายครัวเรือน ไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนที่ อ.เมือง ซึ่งรับน้ำมาจากเทือกเขาบรรทัด ใน อ.ศรีนครินทร์ และ อ.กงหรา บางส่วน ทำให้ระดับน้ำสูงใน ต.นาโหนด ,เขาเจียก และ ปรางหมู่ โดยที่ ต.ปรางหมู่ หมู่ 5 ระดับน้ำท่วมสูง 2 เมตร ชาวบ้าน 15 ครัวเรือนต้องอพยพเป็นการด่วน และเกือบทุกหมู่บ้านถนนถูกตัดขาด 

ขณะที่ สำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพัทลุง ได้รับรายงานว่าบ้านเลขที่ 431 หมู่ 3 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน ตัวบ้านถูกกระแสน้ำพัดพังเสียหาย 1 หลัง และเกิดดินสไลด์ ที่ต.บ้านนา ติดถนนสายเพชรเกษม พัทลุง  - ตรัง ขณะเดียวกันน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดที่ไหลลงมาจากน้ำตกไพรวัลย์ ได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่หมู่ 2 ต.คลองเฉลิม  อ.กงหรา และเข้าท่วมฟาร์มไก่ของชาวบ้านทำให้ไก่ที่เลี้ยงไว้ ทำให้ไก่ ตายไปกว่า 4,000 ตัว เจ้าหน้าที่ต้องเร่งจับที่เหลือส่งขาย 

ด้าน นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการเพื่อประเมินสถานการณ์ พร้อมประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยรวมทั้งสิ้น 8 อำเภอ คือ อ.เมือง, ควนขนุน, กงหรา, ศรีบรรพต, บางแก้ว, ปากพะยูน, ป่าพะยอม และ ป่าบอน รวม 50 ตำบล 262 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 10,000 ครัวเรือน พร้อมสั่งทุกหน่วยงานให้เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการอพยพออกจากบ้านไปอยู่ที่ปลอดภัย


ฝนถล่มสุราษฏร์ฯท่วม17อ.กระทบ4หมื่นคน

เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฏร์ธานี (ปภ.) เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่อง ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ของจังหวัด จากการตรวจสอบพบ มี 17 อำเภอ จากทั้งหมด 19 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบ คงเหลือ อ.บ้านตาขุน และ พนม วัดระดับน้ำสูงสุดประมาณ 1 เมตร เบื้องต้นมีการลงสำรวจ ใน 14 อำเภอ พบ 69 ตำบล ประสบภาวะน้ำท่วม บ้านเรือนประชาชน 18,117 หลัง ประชาชน 44,675 คน ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งทางอำเภอจะทยอยรายงานความเสียหายมายัง ปภ. ทุก ๆ 3 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ภาพรวมปัจจุบันยังไม่น่าไว้วางใจ โดยจะต้องติดตามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับแจ้งเตือนให้ประชาชน เตรียมความพร้อมรับมือ เนื่องจากขณะนี้มีน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาตอนบน รวมถึง จ.นครศรีธรรมราช หลากลงมาสมทบ โดยเฉพาะจุดเสี่ยง 3 แห่ง คือ อ.กาญจนดิษฐ์, พุนพิน และ ดอนสัก


น้ำท่วมนครศรีฯหลายชุมชนวิกฤติ-ระบายช้า

ทหารกองทัพภาคที่ 4 ยังคงนำกำลังพลเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ภายในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำในหลายชุมชนมีระดับความสูงกว่า 1 เมตร ขณะที่ น้ำจากเทือกเขาหลวงยังคงไหลหลากเข้าสู่พื้นที่เมืองอย่างต่อเนื่อง ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างล่าช้า และยังประสบกับภาวะน้ำทะเลหนุนอย่างต่อเนื่อง 

ขณะเดียวกัน ได้มีการบินสำรวจในมุมสูง พบว่ามวลน้ำจำนวนมากได้ล้นตลิ่ง จากลำคลองสายหลักที่ไหลผ่านตัวเมืองหลากเข้าท่วมชุมชน ที่อยู่ในระหว่างแนวถนนพัฒนาการคูขวาง และถนนศรีธรรมโศก อยู่ในระดับสูง เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิใต้เต็กเซี่ยงตึ๊งต้องนำอาหารปรุงสำเร็จเข้าไปแจกจ่ายประชาชนที่ติดค้างอยู่ภายในชุมชน และล่าสุดนั้น มีอำเภอที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมเกือบครบ 23 อำเภอ ทั้งจังหวัดแล้ว โดย นายอำเภอแต่ละอำเภอ กำลังเสนอขออนุมัติในการประกาศภัยพิบัติฉุกเฉิน ขณะที่ฝนยังคงตกอย่างหนักเป็นระยะ


กระบี่ยังอ่วม1อ.น้ำท่วมสูง1ม.แนวโน้มเพิ่มขึ้น

นายไพศาล ขุนศรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ปัจจุบัน จ.กระบี่ พบพื้นที่ประสบภาวะน้ำท่วมแล้ว 2 อำเภอ คือ อ.ลำทับ และ อ.เขาพนม โดยที่อ.ลำทับ พบว่าขณะนี้ระดับน้ำลดลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือที่ อ.เขาพนม ที่ล่าสุดยังมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชน รวมถึงพื้นที่ทางการเกษตรใน 2 ตำบล ประกอบด้วย ต.สินปุน หมู่ 4 บ้านมะม่วงเอน, หมู่ 5 บ้านบางรางโพธิ์, หมู่ 6 บ้านบางนุ้ย, หมู่ 7 บ้านโคกคา และ ต.โคกหาร หมู่ 2 บ้านโคกหาร ระดับน้ำสูง 1 เมตร ราษฎร 100 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบ เบื้องต้น ผู้บริหารองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ลงพื้นที่อำนวยความสะดวกช่วยย้ายสิ่งของ พร้อมมอบเครื่องอุปโภค บริโภค โดยคาดว่าสถานการณ์ระดับน้ำจะสูงเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงทีต่อไป


ฝนตกน้ำท่วมอ.สายบุรีปัตตานีหนักสุดรอบ10ปี

นายโอม เชื้อแหลม นายอำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ทุกพื้นที่ทั้งอำเภอสายบุรี 11 ตำบล คือตะลุบัน, ตะบิ้ง, ปะเสยะวอ, บางเก่า, บือเระ, เตราะบอน, กะดุนง, ละหาร, มะนังดาลำ, แป้น และ ทุ่งคล้า กำลังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำป่าไหลหลากจาก อ.ศรีสาคร และ รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ทางตอนเหนือ ประกอบกับปริมาณฝนที่ตกลงมาสะสม โดยปีนี้ถือว่ามีมากที่สุดในรอบ 10 ปี วัดได้ประมาณ 200 มิลลิเมตร ล่าสุดยังคงตกอยู่ต่อเนื่อง ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบมีผู้ได้รับความเดือดร้อนแล้ว 4,489 หลังคาเรือน ระดับน้ำท่วมสูงสุดอยู่ที่ 1.50 เมตร หนักสุดคือบริเวณ หมู่ 10 ต.เตราะบอน ที่ขณะนี้เกิดน้ำท่วมทั้งหมู่บ้าน 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่แน่ชัดได้ว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อใด เพราะจะต้องติดตามสภาพอากาศในวันพรุ่งนี้ ว่าจะมีฝนลงมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ต่อไป




แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook