พิษคนไทยแอบอยู่เกินกำหนด ตม.ญี่ปุ่น ตรวจเข้ม-กักตัว กลุ่ม “พาสปอร์ตใหม่”

พิษคนไทยแอบอยู่เกินกำหนด ตม.ญี่ปุ่น ตรวจเข้ม-กักตัว กลุ่ม “พาสปอร์ตใหม่”

พิษคนไทยแอบอยู่เกินกำหนด ตม.ญี่ปุ่น ตรวจเข้ม-กักตัว กลุ่ม “พาสปอร์ตใหม่”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง “ญี่ปุ่น” ตรวจเข้มนักท่องเที่ยวไทย แม้จะเดินทางเข้าออกหลายครั้ง โดยเฉพาะกลุ่ม “พาสปอร์ตใหม่” เหตุหลังเปิดฟรีวีซ่าคนไทยแอบอยู่เกินกำหนดพุ่งพรวด

ปัญหาคนไทยลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อทำงานและอยู่อาศัยในประเทศท่องเที่ยว ซึ่งเปิดฟรีวีซ่าสำหรับคนไทยทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่น นับวันยิ่งสร้างผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวตัวจริง ที่ทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบคนเข้าเมือง..

กรณีล่าสุดเกิดขึ้นกับ ณัฐพงศ์ ไชยวานิชย์ผล เจ้าของตำแหน่งแฟนพันธุ์แท้ประเทศญี่ปุ่น และเจ้าของผลงานเขียนหลายเล่มเกี่ยวกับความเป็นอยู่ วัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้เดินทาง เข้าออกประเทศญี่ปุ่นหลายสิบครั้งตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ปี 2544 โดยการเดินทางไปท่องเที่ยว

จนกระทั่งได้ไปเรียนต่อ ทำงาน และมีภรรยาเป็นคนญี่ปุ่น แต่มิวายโดนเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ประจำสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น กักตัวเข้าห้องสอบสวน เนื่องจากการเดินทางเข้าญี่ปุ่นในครั้งนี้ เขาถือพาสปอร์ตเล่มใหม่แทนเล่มเก่าที่หมดอายุ และถึงแม้จะพกเล่มเก่าเพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้การผ่านเข้าเมืองในครั้งนี้ ผ่านพ้นไปได้ง่ายๆ อย่างเช่นทุกครั้ง

หลังผ่านด่าน ตม.ญี่ปุ่น จนสามารถเข้าเมืองได้ตามปกติ ณัฐพงศ์ ไชยวานิชย์ผล โพสต์เล่าเหตุการณ์และแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่เพิ่งเดินทางเป็นครั้งแรก และผู้ที่ทำพาสปอร์ตใหม่แทนเล่นเก่า ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Nut Kun นัทคุง ใจความสำคัญระบุว่า “ผมโดนกักตัวที่ตรวจคนเข้าเมืองนาริตะ รอบนี้ผมถือพาสปอร์ตใหม่มา (เล่มที่สี่ครับ) โดยที่ในเล่มใหม่กิ๊งมากๆ ไปฮ่องกงก็ไม่มีสแตมป์ รอบนี้ก็ติดเล่มเก่าไปนะครับ แต่ตอนยื่น ตม. ผมยื่นแต่เล่มใหม่ไป เท่านั้นล่ะครับ เจ้าหน้าที่หยิบแบบฟอร์มและขอให้สแกนนิ้วอีกรอบ แล้วให้เจ้าหน้าที่ที่อายุมากกว่ามาพาตัวไปห้องกัก”

เขาเล่าต่อว่า “ผมถามรัวๆ เลยว่ามีอะไร จะดูเล่มเก่ามั้ย เมื่อรู้ว่าพูดภาษาญี่ปุ่นได้เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่ขอโทษ แล้วเชิญเข้าไปในห้องซึ่งเจอคนหน้าตาสายทางอินเดียหลายครอบครัวแต่ไม่มีคนไทย ผมถามว่ามีอะไร คำตอบที่ได้คือ ตอนนี้คนไทยโดดวีซ่าเยอะ โอเวอร์สเตย์เยอะ ใครมาโดยพาสปอร์ตใหม่ต้องเช็คครับ”

เหตุการณ์นี้แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่า เดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 10 ครั้ง และมีพาสปอร์ตเก่าติดตัวมาด้วย แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าต้องทำตามขั้นตอน สุดท้ายใช้เวลาทั้งหมอประมาณ 10 นาที จึงผ่านขั้นตอนและได้เข้าญี่ปุ่นอย่างเช่นทุกครั้ง แต่ในพาสปอร์ตถูกสแตมป์เพิ่มเขียนว่า 法 10-8 เหมือนเป็นหมายเหตุว่า “โดนกัก” ไปตามระเบียบ

แฟนพันธุ์แท้ประเทศญี่ปุ่น ตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่นักท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะผู้ที่ถือพาสปอร์ตเล่มใหม่ โดนจับตาจาก ตม.ญี่ปุ่น เป็นพิเศษก็เพราะว่าคนไทยโดดวีซ่า และเข้าเมืองผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น จึงแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวใครที่ถือพาสปอร์ตใหม่ ให้เตรียมเล่มเก่ามาด้วยพร้อมเตรียมหลักฐาน และรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยงให้เยอะที่สุด ทั้งไฟลท์บินกลับ ที่พัก แผนการท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งบุคคลอ้างอิง

ทั้งนี้ สถานการณ์คนไทยอยู่อาศัยในญี่ปุ่น เกินระยะเวลาที่กำหนดเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว ล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เปิดเผยรายงานสถิติชาวต่างชาติที่พำนักในญี่ปุ่นเกินกำหนด (Overstay) ณ วันที่ 1 มกราคม 2559 ระบุว่ามีชาวต่างชาติ Overstay ในญี่ปุ่นทั้งสิ้น 62,818 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ในจำนวนนี้เป็นคนไทยมากถึง 5,959 คน ซึ่งสูงสุดเป็นลำดับที่ 3 ของชาติที่พำนักในญี่ปุ่นเกินกำหนด

โดยก่อนหน้านี้เฟซบุ๊ก สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น - 在東京タイ王国大使館 โพสต์เตือนชาวไทยที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมาย ระบุว่า หากถูกจับกุมในข้อหาไม่มีวีซ่า (Overstay) นอกจากจะถูกคุมขังแล้ว ยังต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะได้เดินทางกลับประเทศไทย

ซึ่งบทลงโทษสำหรับผู้หนีวีซ่าสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ “คำสั่งให้ออกนอกประเทศ” และ “ถูกเนรเทศ” ดังนั้น สำหรับบุคคลที่พำนักในญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมาย แต่เกรงว่าจะถูกจับกุมและถูกคุมขัง สามารถใช้ประโยชน์จาก “ระบบคำสั่งออกนอกประเทศ” ของทางการญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องถูกคุมขัง แต่ต้องมีคุณสมบัติครบ 5 ประการตามด้านล่าง ดังนี้

1. ต้องไปมอบตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เพื่อเตรียมตัวเดินทางออกจากญี่ปุ่น
2. ต้องไม่เข้าข่ายถูกเนรเทศ ออกนอกประเทศญี่ปุ่นด้วยเหตุผลอื่นนอกเหนือการลักลอบพำนักเกินกว่าทางการกำหนด (Overstay) อาทิ ไม่ได้ใช้หนังสือเดินทางปลอมเข้าเมือง
3. ไม่เคยถูกพิพากษาให้จำคุกจากศาลญี่ปุ่น
4. ไม่เคยถูกเนรเทศหรือไม่เคยได้รับคำสั่งให้ออกนอกประเทศจากรัฐบาลญี่ปุ่น
5. สามารถเดินทางออกนอกประเทศญี่ปุ่นได้ด้วยตนเอง กล่าวคือ สามารถจัดซื้อบัตรโดยสารเครื่องบิน และมีเงินสดเพียงพอสำหรับเป็นค่าที่พักระหว่างรอกระบวนการตัดสินในญี่ปุ่น ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์

สามารถมอบตัวได้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นประจำภูมิภาค ทั้งนี้ ไม่สามารถมอบตัวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินได้ www.immi-moj.go.jp/english/soshiki/index.html หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.immi-moj.go.jp/english/tetuduki/index.html

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Nut Kun นัทคุง และ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น - 在東京タイ王国大使館

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook