เดชณรงค์ประชุมผลกระทบรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธิน

เดชณรงค์ประชุมผลกระทบรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธิน

เดชณรงค์ประชุมผลกระทบรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รอง ผบ.ตร. ประชุมพิจารณาผลกระทบ รื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธิน พร้อมสั่งการ ให้ ตำรวจเร่งระบายรถ หลังพบปัญหารถสะสมเพิ่มขึ้น

พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และพิจารณาผลกระทบจากการรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธิน ครั้งที่ 5 โดยผลการประชุมพบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งมอบพื้นที่บริเวณสะพานลอยข้ามแยกรัชโยธินให้กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ในคืนนี้ เพื่อทำการรื้อถอนสะพานข้ามแยกรัชโยธิน แล้วก่อสร้างทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว อุโมงค์ลอดแยกรัชโยธิน และทางยกระดับเหนือถนนพหลโยธิน ซึ่งหลังจากนี้ จะปิดการจราจรบนสะพานข้ามแยกรัชโยธินตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลาประมาณ 2 ปี และอนุญาตให้ รฟม. นำอุปกรณ์และเครื่องจักรหนัก เข้ามาดำเนินการรื้อถอนได้ภายในคืนนี้ เนื่องจากพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สามารถควบคุม จัดการจราจร และเร่งระบายรถ บริเวณถนนรัชดาภิเษก, พหลโยธิน และถนนอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดการจราจรได้

ทั้งนี้ หลังจากมีการทดลองปิดการจราจร ที่ผ่านมาพบว่าถนนลาดพร้าวได้รับผลกระทบมากที่สุด มีท้ายแถวสะสมยาวจนถึงบางกะปิ เนื่องจากเป็นถนนที่มีการจราจรคับคั่งอยู่แล้ว และมีประชาชนใช้ทางลัดตามซอยต่าง ๆ ไปออกในถนนลาดพร้าวจำนวนมาก รองลงมา คือ ถนนในซอยโชคชัย 4 ที่การจราจรติดขัดต่อเนื่องจากถนนลาดพร้าว จึงได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบังคับการตำรวจจราจร ไปหาทางแก้ปัญหาให้ถนนลาดพร้าวมีความคล่องตัวมากที่สุด เพื่อใช้เป็นจุดเร่งระบายรถอีกทางหนึ่ง

ส่วนถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่มีประชาชนหลีกเลี่ยงมาใช้จำนวนมากพบว่า มีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น การจราจรเคลื่อนตัวช้าในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่เจ้าหน้าที่ยังสามารถระบายรถในเส้นทางได้ ทั้งนี้ เพื่อให้การจราจรในจุดดังกล่าวมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น จึงมีการเสนอให้เจรจากับดอนเมืองโทลล์เวย์ให้ช่วยลดค่าผ่านทางในบางด่าน บางช่วงเวลา เพื่อช่วยเร่งระบายรถอีกทางหนึ่ง และเพิ่มช่องทางพิเศษในช่วงเวลาเร่งด่วน บนถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งยังจะมีการตัดเกาะกลางทางเท้า บริเวณสวนสมเด็จย่า ช่วงบริเวณห้าแยกลาดพร้าวฝั่งวิภาวดีรังสิตตัดกับถนนพหลโยธิน
 
ขณะที่การจราจรบนถนนรัชดาภิเษก และพหลโยธิน พบว่ามีท้ายแถวสะสมเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่เป็นปัญหาติดขัดล็อกเป็นวงแหวนจนไม่สามารถระบายรถได้ ทั้งนี้ จะมีการเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบเส้นทางเลี่ยง และชี้แจงถึงความจำเป็นในการปิดการจราจรในจุดดังกล่าว เพิ่มมากขึ้น

ส่วนการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่า ตั้งแต่วันที่ 3 ถึง 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถขึ้นคลายการจราจรในช่วงเช้า โดยใช้เวลาลดลง 24 นาที ส่วนในช่วงเย็น ใช้เวลาลดลง 49 นาที ถือว่าการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล สามารถคลี่คลายได้เร็วขึ้นและลดปัญหาในจุดต่าง ๆ ไปได้ มากเป็นที่น่าพอใจ


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook