ครม.อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดเงื่อนไขอยู่ในไทย

'พล.ท.สรรเสริญ' เผย ครม. อนุมัติในหลักการ ร่างกฎกระทรวง กำหนดฐานะ เงื่อนไขอยู่ในประเทศไทย แต่ไม่ได้สัญชาติไทย

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติในหลักการร่างกฎกระทรวงเพื่อกำหนดฐานะเงื่อนไขการอยู่ในประเทศไทยของผู้ที่เกิดในประเทศไทย แต่ไม่ได้สัญชาติไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยกำหนดสิทธิให้เด็กที่เกิดในประเทศไทย แต่ไม่ได้สัญชาติไทย มีสิทธิ์อยู่ในประเทศได้เช่นเดียวกับบิดามารดา ยกเว้นกรณีที่บิดามารดาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งจะถูกส่งกลับประเทศต้นทางทันที ส่วนกรณีเด็กกำพร้า ต้องมีหนังสือรับรองจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะได้รับโอกาสเป็นพิเศษให้อยู่ในประเทศได้ชั่วคราว โดยจะพิจารณาเป็นรายกรณี

อย่างไรก็ตาม เด็กที่เกิดในประเทศไทย สามารถพำนักอยู่ต่อไปได้ ในกรณีมีอายุไม่น้อยกว่า 18 ปีบริบูรณ์ หรือบรรลุนิติภาวะด้วยการสมรสกับคนใดคนหนึ่งที่มีสัญชาติไทย หรือบุคคลที่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไปพร้อมกับบิดามารดาได้

พล.ท.สรรเสริญ ยังกล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังเห็นชอบข้อเสนอการปรับปรุงหลักเกณฑ์ การให้สัญชาติไทย แก่ชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์ โดยมีการแก้ไขหลักเกณฑ์กำหนดให้เป็นบุคคลที่พำนักอยู่ในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 15 ปี จากเดิมที่กำหนดให้เป็นบุคคลที่เข้ามาอาศัยในไทย ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2538 

ทั้งนี้ บุคคลที่ยื่นขอสัญชาติไทย บิดามารดาต้องถือเลขทะเบียน 13 หลัก และมีหลักฐานการเกิดในประเทศไทย เป็นทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติ ต้องไม่เคยใช้สัญชาติอื่นมาก่อน / ต้องพูดไทยได้ / มีความจงรักภักดี เลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข / และไม่เป็นภัยต่อความมั่นคง ส่วนบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย แต่อยู่ระหว่างการศึกษาในชั้นอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า หรือเรียนต่อต่างประเทศและได้รับทุน
การศึกษา ก็สามารถยื่นคำขอรับสัญชาติไทยอีกด้วย

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีบุคคลไร้รากเหง้า หรือ บุคคลที่ไม่สามารถตรวจหาในสารบบได้ว่ามีเครือญาติหรือไม่ ต้องได้รับหนังสือรับรองคนไร้รากเหง้าจากกระทรวง พม. และต้องมีหลักฐานพำนักอยู่ในไทยไม่ต่ำกว่า 10 ปี