คสช.ตั้ง12ศูนย์ช่วยน้ำท่วมใต้เร่งระบายรับฝนหนัก

คสช.ตั้ง12ศูนย์ช่วยน้ำท่วมใต้เร่งระบายรับฝนหนัก

คสช.ตั้ง12ศูนย์ช่วยน้ำท่วมใต้เร่งระบายรับฝนหนัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รบ. - คสช. เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างเต็มที่ พร้อมจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย 12 จังหวัด ชุมพรยังท่วมหนัก7อ.เดือดร้อน ส่วนนครศรีฯฝนลด แต่ 3อ.ชายทะเลยังอ่วมหนัก

พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ทางรัฐบาล และ คสช. ได้เร่งดำเนินการให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยได้มอบหมายให้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. สั่งการไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 จัดตั้งหน่วยทหาร รวมถึงประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยในแต่ละจังหวัดขึ้น โดยเบื้องต้นมี 12 จังหวัด คือ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ปัตตานี ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน ในการเร่งระบายน้ำและเคลื่อนย้ายประชาชน สัตว์และสิ่งของออกจากพื้นที่น้ำท่วม ให้ไปอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว เพื่อให้สามารถดูแล แจกจ่ายอาหาร เครื่องดื่มและให้การรักษาพยาบาลได้

ทั้งนี้ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวถึง การดำเนินการกับสำนักข่าวบีบีซีไทย ที่เผยแพร่บทความไม่เหมาะสม ว่าต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงไปแล้ว และในขณะนี้ต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการ


ชุมพรยังท่วมหนัก7อ.เดือดร้อนเพิ่มทะลุ3หมื่นคน

นางสาววัจนา วัจนคุปต์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชุมพร กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงสถานการณ์อุทกภัยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดประกาศพื้นที่ภัยพิบัติอุทกภัยไปแล้ว 7 อำเภอ แต่มีการเพิ่มจำนวนของพื้นที่ที่ประสบภัย จากเดิมเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. มี 7 อำเภอ 48 ตำบล 264 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,367 ครัวเรือน 13,410 คน ข้อมูลล่าสุดวันนี้ (8 ธ.ค.) ประสบภัย 7 อำเภอ 59 ตำบล 404 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,305 ครัวเรือน 30,614 คน สำหรับอำเภอที่ประสบภัย ประกอบด้วย อำเภอเมืองชุมพร อำเภอท่าแซะ อำเภอปะทิว อำเภอหลังสวน อำเภอละแม อำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก ส่วนที่ อำเภอพะโต๊ะ ยังไม่ได้ประกาศภัยพิบัติ แต่เมื่อวานมีเหตุการณ์ดินสไสด์ อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ซึ่งขณะนี้พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ อำเภอสวี และอำเภอหลังสวน ที่มีเรื่องของดินโคลนด้วย โดยขณะนี้ทางจังหวัด องค์กรท้องถิ่น ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเหลือในพื้นที่อย่างเต็มที่แล้ว คาดว่าอีก 1-2 วัน หากฝนไม่ตกเพิ่มสถานการณ์น่าจะคลี่คลาย


นครศรีฯฝนลด แต่3อ.ชายทะเลยังอ่วมหนัก

นายวานิช แก้วประจุ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครศรีธรรมราช (ผคป.นครศรีธรรมราช) กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ขณะนี้ฝนเริ่มลดลงหลายพื้นที่ ทำให้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายลงไปอย่างมากอย่างในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เส้นทางหลักกลับมาสัญจรไปมาได้แล้ว แต่ยังต้องจับตาพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย อย่างเช่น อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอหัวไทร อำเภอปากพนัง ที่ยังน้ำท่วมเต็มในพื้นที่ เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำจาก อำเภอชะอวด อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ขณะนี้ ชลประทานนครศรีธรรมราช ระบายได้วันละประมาณ 120 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่น้ำในพื้นที่มีประมาณ 600-700 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งแม้จะเร่งระบายเต็มที่ แต่อาจติดอุปสรรคในช่วงทะเลหนุนบ้าง คาดว่าอีก 2-3 วัน สถานการณ์น่าจะดีขึ้น ซึ่งจะไปตรงกับที่กรมอุตุพยากรณ์ว่า ในวันที่ 10 ธ.ค. อาจจะมีฝนหนักอีก ดังนั้นต้องเร่งระบายออกน้ำทะเลให้เร็วที่สุด โดยทางชลประทานนครศรีธรรมราช ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 30-40 เครื่อง และยังมีเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเร่งดันน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วอีกด้วย

ทั้งนี้ ทาง นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมคณะกรรมการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช วันละ 2 รอบ  เช้า (09.00น.) เย็น (17.00 น.) ทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ประสบภัยพิบัติ ทั้ง 23 อำเภอ ผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 301,557 คน รวม 108,659 ครัวเรือน



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook