นายกเปิดงานต้านโกงย้ำเร่งช่วยเกษตรกรปัดทุจริตแจกเงิน

นายกรัฐมนตรี ประกาศเจตนามณ์ต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล ชี้เป็นภัยร้ายการบริหารประเทศ เร่งช่วยเกษตรกร มั่นใจงบฯ ไม่รั่วไหล พร้อมให้ตรวจสอบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวประกาศเจตนารมณ์ ในการต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล ว่า การคอร์รัปชั่นถือว่าเป็นภัยและศัตรูร้ายในการบริหารประเทศ เพราะหากเกิดการคอร์รัปชั่นจะทำให้เกิดความเสียหาย เช่น เศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา ดังนั้น จะต้องปลูกฝังให้ลูกหลานรู้จักคำว่าพอเพียง ไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่กระทำการคอร์รัปชั่น อีกทั้งจะต้องไม่พัฒนาประเทศในรูปแบบเดิม พร้อมทั้งไม่ต้องการให้มองว่าเมื่อเริ่มโครงการใหม่ที่รัฐบาลทำและมีการวิพากษ์วิจารณ์ ว่า จะมีการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งหากมีการทุจริต ก็ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จและเข้าสู่กระบวนยุติธรรม

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร ว่า เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อเป็นกลไกที่นำไปสู่ความเข้มแข็งและนำไปต่อยอดให้มีรายได้เพิ่มขึ้นสามารถเสียภาษีได้ ซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ พร้อมยืนยันด้วยว่าการใช้งบประมาณในส่วนนี้ไม่ได้รั่วไหล ขณะเดียวกัน ขออย่านำสิ่งเก่ามาเปรียบเทียบกับรัฐบาลนี้ เพราะรัฐบาลกำลังเร่งปฏิรูปประเทศ ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบบุคคลที่แอบอ้างตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี เพื่อหาผลประโยชน์ หากพบว่าเกิดขึ้นจริง ก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี นำกล่าวปฏิญาณตนเพื่อต่อต้านการคอร์รัปชั่น โดยระบุว่า เมื่อกล่าวคำปฏิญาณแล้ว ก็ขอให้ปฏิบัติตามสิ่งที่ได้กล่าวไว้ เพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งนี้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะ กล่าวบนเวทีได้สั่งให้ทุกคนในห้องประชุมลุกขึ้นยืนและชูมือขึ้น เพราะเห็นว่าผู้เข้าร่วมงานมีอาการง่วง หลังจากฟังการบรรยายมากว่า 1 ชั่วโมง โดยก่อนนายกรัฐมนตรี จะลงจากเวทีได้เชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานยืนขึ้นและออกกำลังกายแก้อาการง่วงอีกครั้งด้วย

ขณะที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ตั้งแต่ไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านทุจริตกับสหประชาชาติตั้งแต่ปี 2003 พบว่า ดัชนีการรับรู้การทุจริตระหว่างปี 2555 - 2558 ของไทยอยู่ในช่วงคะแนน 35 - 38 จากคะแนนเต็ม 100 เป็นลำดับที่ 3 จาก 168 ประเทศ ซึ่งสะท้อนปัญหาทุจริตที่รุนแรง ต้องได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต ระยะที่ 3 กำหนดวิสัยทัศน์ "ประเทศไทยใสสะอาด ไทยทั้งชาติต้านทุจริต" จะมุ่งสู่ประเทศที่มีมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรมที่ประชาชนจะไม่เพิกเฉยต่อการทุจริต โดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ตั้งเป้าให้มีดัชนีการรับรู้การทุจริตอยู่ที่ 50 คะแนน โดยแบ่งออกเป็น 6 ยุทธศาสตร์