ป.รวบหนุ่มตบตีแฟนสาวก่อนกราดยิงคนเข้าห้าม

ป.รวบหนุ่มตบตีแฟนสาวก่อนกราดยิงคนเข้าห้าม

ป.รวบหนุ่มตบตีแฟนสาวก่อนกราดยิงคนเข้าห้าม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจกองปราบรวบ หนุ่ม ตบตีแฟนสาว ก่อนกราดยิงคนที่เข้าช่วยเหลือ ที่จุดพักรถมอเตอร์เวย์ สาย 7 กรุงเทพฯ - พัทยา

พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 คน คือ นายเฉลิมพร หรือ เจี๊ยบ วาเลนไทน์ และ นายสิทธิฤทธิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่ชุมชนและทำให้เสียทรัพย์

โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณจุดพักรถบนทางด่วนมอเตอร์เวย์ สาย 7 กรุงเทพฯ-พัทยา ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดย นายเฉลิมพร ได้ขับรถยนต์สปอร์ต 2 ประตู สีเขียว ไปยังจุดดังกล่าวและมีปากเสียงตบตีกับแฟนสาว

แต่ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้น เข้าช่วยเหลือห้ามปราม นายเฉลิมพร จึงใช้อาวุธปืน กราดยิงเข้าไปในจุดดังกล่าว โดนรถเสียหายหลายคัน และชาวบ้านต้องหนีตายกันอย่างจ้าละหวั่น ก่อนที่คนร้ายจะขับรถหลบหนีไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของกองบังคับการปราบปรามและชุดสืบสวนของ สภ.บางปะกง ได้ทำการสืบสวนจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายได้ขณะก่อเหตุและที่บริเวณด่านเก็บเงิน จนพบว่าผู้ก่อเหตุคือผู้ต้องหาทั้งสองคน และมีประวัติที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด

จากนั้นทำการสืบสวนต่อจนทราบว่าคนร้ายหลบหนีอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ขณะเข้าจับกุมยังพบยาเสพติด เป็นยาบ้า 2,490 เม็ด ไอซ์บรรจุห่อ น้ำหนักรวม 158.91 กรัม และอาวุธปืนออโตเมติกขนาด .380 super พร้อมเครื่องกระสุนรวมเกือบ 20 นัด นอกจากนี้ ยังพบรถยนต์สปอร์ตที่ใช้ในวันเกิดเหตุ แต่มีการเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำอีกด้วย

ด้าน นายเฉลิมพล รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุในวันดังกล่าวจริง สาเหตุเกิดจากไม่พอใจชาวบ้าน ที่เข้ามาห้ามปรามระหว่างที่กำลังทะเลาะกับแฟนสาว และด่าทอถึงบุพการี จึงใช้อาวุธปืนกราดยิงเข้าไปในกลุ่มคน

หลังเกิดเหตุก็คาดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะติดตามจากรถยนต์ของตน จึงมีการอำพรางเปลี่ยนสีเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้ ทั้งนี้ ยังยอมรับว่าในวันที่เกิดเหตุได้มีการดื่มสุราและเสพยาเสพติดมา จึงทำให้ขาดสติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook