นายกฯแนะนักการเมืองโปร่งใสชมตูนบอดี้สแลมวิ่งทำดี

นายกรัฐมนตรี ขอนักการเมืองปรับปรุงตัว ยึดโปร่งใสไร้ผลประโยชน์ทับซ้อน มีความรับผิดชอบแก้ปัญหาประเทศ ชม 'ตูน บอดี้สแลม' ทำดีจัดวิ่งเพื่อพ่อเป็นตัวอย่างเยาวชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน" ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ประชาชนในภาคใต้หลายจังหวัดประสบปัญหาอุทกภัย ซึ่งในการนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยพสกนิกรในพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้และทรงพระราชทานถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในแต่ละพื้นที่ ซึ่งได้สร้างความปลื้มปิติยินดีเป็นล้นพ้น

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลได้เฝ้าติดตามเสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้อย่างใกล้ชิด โดยได้แจ้งข่าวสารให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง รวมทั้ง การให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว การป้องกันเหตุจมน้ำ พร้อมได้มีการเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ล่วงหน้า เพื่อให้ประชาชน ผู้ประสบภัย ปลอดภัย อุ่นใจ และสามารถกลับมาดำเนินชีวิตเป็นปกติให้ได้โดยเร็วที่สุด

ในขณะเดียวกัน ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าติดตามประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และสำหรับผู้ประสบภัย สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต, สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและสาขาในพื้นที่ หรือโทรฯ สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชม.

 

นายกฯขอนักการเมืองปรับปรุงตัวยึดโปร่งใส

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน" ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ขอผมชื่นชมนักการเมืองที่ดี และเชื่อว่ามีมากกว่านักการเมืองที่ไม่ดีอย่างแน่นอน โดยผู้ที่เข้ามาบริหารบ้านเมืองในอนาคต ก็ต้องปรับปรุงตัว เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ มีความโปร่งใส ปราศจากข้อสงสัย ในเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่น ผลประโยชน์ทับซ้อน และต้องเป็นนักการเมือง มือสะอาด ใจบริสุทธิ์ มีความต้องการเข้ามารับผิดชอบแก้ปัญหาบ้านเมือง มากกว่าความปรารถนาเข้ามาบริหารงบประมาณแผ่นดินอย่างเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรม

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวว่า กว่า 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลและคสช. ได้พยายามจะทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ในแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสม โดยรัฐบาล ข้าราชการ ควรจะอยู่ในจุดใด บทบาทหน้าที่เป็นอย่างไร จะดูแลประชาชน พัฒนาประเทศ รักษาสมดุลระบบนิเวศน์อย่างไรนั้น ทั้งหมดก็คือ "วงจรในการใช้อำนาจ" บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบสุข เดินหน้าไปได้ มีการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ในทุกกิจกรรม และมีการรักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ปล่อยปละละเลยจุดใดจุดหนึ่ง เพราะรัฐบาลนั้นเป็นผู้ใช้ "พระราชอำนาจ" ของพระมหากษัตริย์ ในการบริหารประเทศตามรัฐธรรมนูญทำงาน ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ทุกรัฐบาลจึงจำเป็นต้องรักษาพระราชอำนาจ ให้คงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ และทำเพื่อประชาชน เช่นที่พระมหากษัตริย์ ทุกพระองค์ ทรงทำเสมอมา

 

นายกฯชม"ตูน"ทำดีวิ่งเพื่อพ่อเป็นตัวอย่างเยาวชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน" ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ตัวอย่างของการ "ทำดีเพื่อพ่อ" ได้แก่ "โครงการก้าวคนละก้าว" ซึ่ง นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ในการวิ่งเพื่อระดมทุนจากผู้มีจิตศรัทธา ทั่วประเทศ มาช่วยเหลือโรงพยาบาลบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ที่ยังขาดแคลน โดยได้มีการออกวิ่งจากกรุงเทพฯ ไปอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางรวม 400 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง วันที่ 10 ธ.ค. ทำให้มีการติดขัดทางการจราจรบ้าง ให้ถือว่าช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะนอกจากจะเป็นการอุทิศแรงกาย แรงใจ ทำงานเพื่อสังคมแล้ว ยังเป็นการออกกำลังกาย เป็นตัวอย่างให้กับเยาวชนและประชาชน เป็นความคิดที่สร้างสรรค์ของผู้ที่มีชื่อเสียงอยู่ในสังคม ที่สำคัญก็คือ เป็นการทำการกุศลที่สิ้นเปลืองน้อยที่สุด ใช้แรงกาย แรงใจ แต่ได้รับผลตอบรับมากที่สุด โดยขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ทุกคนด้วย

 

นายกฯมุ่งช่วยประชาชนผู้มีรายได้น้อย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า มีความพยายามจะสร้างความแตกแยกภายในประเทศ แบ่งพวกแบ่งฝ่าย หลังจากรัฐบาลให้มีการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย โดยรัฐบาลยืนยันว่า เป็นรัฐบาลของทุกคน ในประเทศไทย มีหน้าที่ในการดูแลทุกข์สุขของประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ ไม่ใช่เป็นการบริหารบ้านเมือง เพื่อรักษา คะแนนนิยม

ดังนั้น นโยบายนี้มุ่งจะดูแลพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อย ทุกกลุ่ม ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 8.3 ล้านคน  แบ่งเป็นเกษตรกร 2.9 ล้านราย และไม่ใช่เกษตรกร 5.4 ล้านราย  ร้อยละ 50 เป็นผู้ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท และร้อยละ 65 เป็นผู้ที่อายุมากกว่า 45 ปี จากข้อมูลสถิติเหล่านี้ ก็จะเป็นประโยชน์ในการกำหนดนโยบายในการให้ความช่วยเหลือระยะยาวในอนาคต พร้อมระบุว่า  ประเทศไทยไม่ได้มีเกษตรกรอย่างเดียว แต่ยังมีผู้ประกอบอาชีพอิสระ อีกมากมายที่มีรายได้น้อย  เพราะฉะนั้นหากรัฐบาลปล่อยให้ทุกคนมีชีวิตอยู่อย่าง "ปากกัดตีนถีบ" หรือ "ชักหน้าไม่ถึงหลัง" ก็ไม่อาจจะสร้างความเข้มแข็งได้ ยืนยันมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐเหมาะสม

 

นายกฯชี้SMEต้องเสียภาษีให้ถูกต้อง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า ภาคธุรกิจผู้ประกอบการขนาดเล็กต้องพัฒนาตนเอง ในด้านความรู้ เพิ่มขีดความสามารถ พัฒนาสินค้าให้สามารถแข่งขันได้ ขณะที่ธุรกิจขนาดกลางจำเป็นต้องพัฒนา ใช้เทคโนโลยี เครื่องจักร เครื่องมือ ให้ทันสมัยขึ้น ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่ ระดับ ประเทศ ข้ามชาติ ก็ต้องช่วยรัฐบาล ช่วยประชาชน ผ่านกลไกประชารัฐ ยกระดับรายได้ เพิ่มมูลค่า ให้กับประชาชน

สำหรับสถานประกอบการ SMEs จะต้องมีรายได้ กำไรมากขึ้น และมีการเสียภาษีที่ถูกต้องให้กับประเทศชาติ เพื่อนำไปสู่งบประมาณที่เพียงพอต่อการพัฒนาประเทศ  รวมทั้งยังจำเป็นต้องสร้างเขตเศรษฐกิจ ระดับ มหภาค เช่น ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 10 แห่ง ทั่วประเทศ โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อื่นๆ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนอีกมหาศาล