กรมการขนส่งฯ เช็คประวัติคนขับแจ๊สขาวชูปืน ไม่พบใบอนุญาตขับรถ

กรมการขนส่งฯ เช็คประวัติคนขับแจ๊สขาวชูปืน ไม่พบใบอนุญาตขับรถ

กรมการขนส่งฯ เช็คประวัติคนขับแจ๊สขาวชูปืน ไม่พบใบอนุญาตขับรถ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรมการขนส่งทางบก ตรวจสอบประวัติคนขับรถ Jazz ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ รถคู่กรณีบนถนนบางนา-ตราด ไม่พบข้อมูลใบอนุญาตขับรถในระบบฐานข้อมูล ระบุมีความผิดทั้งคนขับรถและเจ้าของรถที่ยินยอมให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับรถมาขับรถของตน

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยกรณีที่มีการนำเสนอข่าวเป็นคลิปผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) ยี่ห้อ Honda รุ่น Jazz สีขาว คันหมายเลขทะเบียน 5กน 3691 กทม. แสดงพฤติกรรมใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่รถคู่กรณีบนถนนบางนา-ตราด บริเวณช่วงกิโลเมตรที่ 9 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมานั้น

กรมการขนส่งทางบกได้ประสานไปยังพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าของคดีเพื่อร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง สำหรับรถยนต์คันดังกล่าวมีนางสาวพัชรี พลีเจริญ เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ส่วนผู้ขับรถในวันเกิดเหตุและเป็นผู้ก่อเหตุ คือ นายนัฐวุฒิ พวงทองแค อายุ 32 ปี

ซึ่งจากการตรวจสอบฐานข้อมูลในระบบฐานข้อมูลใบอนุญาตขับรถ เบื้องต้นพบว่าไม่ปรากฏข้อมูลใบอนุญาตขับรถในระบบฐานข้อมูลใบอนุญาตขับรถของกรมการขนส่งทางบกแต่อย่างใด ซึ่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 64 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยพนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สำหรับเจ้าของรถ มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 56 ประกอบมาตรา 60 ปรับไม่เกิน 2,000 บาท ในข้อหาเจ้าของรถยินยอมให้ผู้ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับรถขับรถของตน ซึ่งกองตรวจการขนส่งทางบกจะดำเนินการเรียกตัวเจ้าของรถคันดังกล่าวมารายงานเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อว่า กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการเข้มงวดในการออกใบอนุญาตขับรถ โดยผู้ที่ขอรับใบอนุญาตขับรถทุกคนต้องผ่านการอบรมความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร การขับขี่ที่ปลอดภัย และมารยาทในการขับรถจำนวน 4 ชั่วโมง จากนั้นจึงทดสอบข้อเขียนด้วยระบบ E-exam ก่อนเข้ารับการทดสอบขับรถ ณ สนามทดสอบขับรถของกรมการขนส่งทางบก โดยมุ่งหวังผลิตนักขับรถที่ปลอดภัยออกสู่ท้องถนน

ทั้งนี้ หากพบพฤติกรรมการขับขี่ไม่ปลอดภัยจนส่งผลให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ.2522 นายทะเบียนสามารถยึดใบอนุญาตขับรถได้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี และอาจพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับรถได้ โดยผู้ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถจะไม่สามารถขอรับใบอนุญาตขับรถฉบับใหม่ได้ จนกว่าจะพ้นกำหนด 3 ปี นับแต่วันที่ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ

ซึ่งการใช้มาตรการเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ และการกำหนดระยะเวลางดเว้นไม่ให้ขับรถบนท้องถนนช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยและคัดกรองผู้ขับรถที่ไม่มีคุณภาพออกจากท้องถนนเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นๆ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันสร้างความตระหนักให้เกิดจิตสำนึกแห่งการขับขี่ปลอดภัย และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการกระทบกระทั่งและลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook