อภิสิทธิ์แนะปรับ ครม.ยึดคนห่วงพรป. พรรค-สุรพงษ์กังวล

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ห่วงร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมือง ปมเงินบำรุง แนะ ปรับคณะรัฐมนตรี ยึดคนทำงานได้ ด้าน 'สุรพงษ์' บอก กังวล พ.ร.ป.พรรคการเมือง รังแกเพื่อไทย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำสมาชิกพรรค วางพานประดับพุ่มดอกไม้ ถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. เชิญพรรคการเมืองร่วมแสดงความเห็นในการเปิดร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมือง ในวันที่ 14 ธ.ค. นี้ ได้รับหนังสือเชิญแล้ว แต่เบื้องต้นจะส่งเป็นเอกสารเข้าร่วม เพราะยังไม่ทราบรูปแบบการจัดเวทีชัดเจน ซึ่งในร่างกฎหมายพรรคการเมือง ส่วนตัวเป็นห่วงเรื่องการจัดเก็บเงินค่าบำรุงจากสมาชิกพรรค ซึ่งถือเป็นสิ่งใหม่ มองว่าในทางปฏิบัติค่อนข้างทำได้ยาก ขณะที่การปลดล็อกพรรคการเมืองให้สามารถจัดกิจกรรมได้นั้น ไม่ขอเรียกร้อง คสช. และ คสช. ควรมุ่งรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง อีกทั้งไม่อยากให้มองพรรคการเมืองเพียงการเลือกตั้งอย่างเดียว

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี อยากให้มองเป้าหมายการทำงาน โดยเลือกคนที่สามารถทำงานได้ตามโรดแมป พร้อมทั้งรัฐบาล ควรเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะประชาชนยังไม่ได้การตอบสนองเท่าที่ควร

'สุรพงษ์'ห่วงพ.ร.ป.พรรคการเมืองรังแกพท.

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า หลังจากที่ได้อ่าน พ.ร.ป.พรรคการเมืองแล้ว ก็รู้สึกเป็นห่วงหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะหัวหน้าพรรคอาจจะโดนโทษ ตาม ม.105 หรือ ม.109 คือไม่ถูกประหารชีวิต ก็อาจจะถูกจำคุกตลอดชีวิตก็ได้ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา พรรคก็มักจะถูกหรือโดนบางอย่างที่พรรคการเมืองอื่นไม่โดนกระทำ โดยเมื่อพ.ร.ป.พรรคการเมือง เขียนแบบนี้ พรรคใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทยจะอยู่ได้ยาก เพราะโอกาสที่จะถูกกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายป้ายสี ก็จะมีสูงกว่าพรรคอื่น ๆ นอกจากว่าการบังคับใช้ พ.ร.ป.พรรคการเมือง จะยึดมั่นในหลักนิติรัฐ นิติธรรม ไม่ลำเอียง ไม่สองมาตรฐานบังคับใช้กันอย่างตรงไปตรงมา และโอกาสที่พรรคเพื่อไทย จะโดนยุบพรรคก็มีสูง ตาม ม.97 ที่กำหนดว่า พรรคการเมืองต้องทำ

ตาม ม.23 ที่ กรธ. บอกว่าให้ทุกพรรคการเมืองลองศึกษาดูนั้น เมื่อดูแล้วก็รู้ได้ว่าพรรคเพื่อไทยอาจถูกยุบพรรคง่าย ๆ และขอตั้งคำถามกันแบบตรง ๆ ว่า เขียนกฎหมายลูกแบบนี้ กรธ. มีเป้าหมายความต้องการอะไร และการใช้บทลงโทษถึงขั้นประหารชีวิตนั้น มันทำให้อาจถูกต่างชาติดูถูกดูแคลนในความไม่เป็นอารยะของบ้านเมืองเราก็เป็นได้ ทั้งนี้ ขอให้แก้ไขเพราะยังทันเวลา

'สามารถ'มองพ.ร.ป.พรรคปิดกั้นโอกาสปชช.

นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยเปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึง ความคิดเห็นเกี่ยวกับพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า ส่วนตัวมองว่าไม่ควรเขียนเงื่อนไขให้ปิดกันเสรีภาพในการตั้งพรรคการเมืองของประชาชน เนื่องจากประชาชนที่จะจัดตั้งพรรคต้องมีทุน รวมถึงมีเงื่อนไขอีกมากมาย จึงทำให้การจัดตั้งพรรคการเมืองยากยิ่งขึ้น และเป็นการปิดกั้นคนที่อยากทำ โดยเมื่อไม่สามารถทำได้ จะต้องเข้าหาผู้ที่มีทุน ซึ่งการที่ กรธ. ต้องการสลายการครอบงำของแหล่งทุนนั้น จึงไม่สามารถทำได้ แต่ทำให้เป็นการสนับสนุนให้ไปอยู่กับแหล่งทุน และจะเป็นปัญหาในภายหลังได้

ทั้งนี้ นายสามารถ กล่าวว่า ฝากถึง กรธ. ให้เปิดใจกว้าง รับฟังความคิดเห็น พร้อมแก้ไขให้สอดคล้องกับหลักการสากลที่ว่าด้วยการทำพรรคการเมือง ซึ่งอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน จึงไม่ควรปิดโอกาสในการนำเสนอตัวผู้แทนให้ประชาชนเลือก