เผาศพทั้งน้ำตา หนุ่มจ่ายทิปมากกว่า แฟนสาวช้ำแผนวิวาห์สลาย

เผาศพทั้งน้ำตา หนุ่มจ่ายทิปมากกว่า แฟนสาวช้ำแผนวิวาห์สลาย

เผาศพทั้งน้ำตา หนุ่มจ่ายทิปมากกว่า แฟนสาวช้ำแผนวิวาห์สลาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่อแม่เผาศพทั้งน้ำตา หนุ่มถูกขวดตีดับเพราะจ่ายทิปมากกว่าคนข้างๆ แฟนสาวเผยวางแผนแต่งงาน แต่มาจบชีวิตเพราะความเลือดร้อน ตร.เร่งสรุปสำนวนส่งอัยการคาดไม่เกินเดือนนี้

(15 ธ.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่ นายปราโมทย์ อายุ 34 ปี หนุ่มเซลเลือดร้อน ใช้ขวดตีศรีษะ นายชาคริต อายุ 27 ปี หนุ่มช่างภาพอิสระ เสียชีวิตในร้านอาหารชื่อดังในเขต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา สาเหตุเพียงเพราะไม่พอใจที่ผู้ตายจ่ายทิปพนักงานนวดในห้องน้ำแทน เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่มีเงินแบงค์ย่อย

ล่าสุดทางครอบครัวได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพ นายชาคริต แล้วที่วัดกลางพระอารามหลวง ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว ญาติ เพื่อนที่เคยศึกษาด้วยกัน และเพื่อนร่วมวิชาชีพที่มาร่วมงานศพจำนวนมาก โดยเฉพาะพ่อและแม่ของนายชาคริต ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งที่ลูกชายแสดงความหวังดี แต่กลับถูกกระทำด้วยความรุนแรงจนยากที่จะรับได้

ทั้งนี้ภายในงานยังมี นายดำรงชัย เนรมิตพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด, พ.ต.อ.บัณฑิต อ่อนสาคร ผู้กำกับการ สภ.เมืองฯ ข้าราชการ และผู้ที่รู้จักคุ้นเคยมาร่วมพิธีฌาปนกิจศพ แสดงความไว้อาลัยเป็นจำนวนมากด้วย

ส่วนความคืบหน้าเรื่องคดี ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกเพื่อนผู้ตาย เจ้าของร้านที่เกิดเหตุ รวมถึงพยานแวดล้อมมาสอบปากคำครบทุกปากแล้ว ขณะนี้รอผลตรวจลายนิ้วมือ และสอบประวัติผู้ต้องหาว่าเคยกระทำผิดหรือต้องคดีหรือไม่ เพื่อเร่งสรุปสำนวนส่งอัยการให้ทันภายในเดือนนี้

ขณะที่แฟนสาวของผู้ตายก็เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ได้คบหากับนายชาคริต มาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่คบกันนายชาคริตก็ดูแลตนเองเป็นอย่างดี ไม่เคยทำอะไรให้เสียใจเลย ก่อนหน้านี้นายชาคริตก็เคยบอกกับตนว่าตอนนี้กำลังเร่งทำงานเพื่อเก็บเงินไว้ขอตนแต่งงาน

แต่ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับแฟนของตัวเองที่กำลังจะสร้างฐานะด้วยกัน เพียงเพราะความเลือดร้อนไร้เหตุผลของคนๆ หนึ่ง แต่กลับทำลายอนาคตและความหวังของอีกคน จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับแฟนของตัวเองด้วย

ด้าน นายวิเศษ อาเขยของผู้ตาย บอกว่า หลังเสร็จงานฌาปนกิจศพของหลานก็ได้ปรึกษากับครอบครัวว่า จะไปขอดูสำนวนกับพนักงานสอบสวน เพราะยังติดใจกับการที่ให้ผู้ก่อเหตุประกันตัวเร็วเกินไป ทั้งติดใจกับคำให้การของผู้ต้องหาว่าไม่ได้เจตนาฆ่าหลาน ซึ่งขัดแย้งกับพฤติการณ์หรือการกระทำโดยสิ้นเชิง จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมอยากวิงวอนให้ผู้รักษากฎหมายได้ทำคดีอย่างเป็นธรรม และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook