โยโกะป่วยเส้นสมองอักเสบความจำเสื่อม

โยโกะป่วยเส้นสมองอักเสบความจำเสื่อม

โยโกะป่วยเส้นสมองอักเสบความจำเสื่อม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'โยโกะ' ป่วยเส้นสมองอักเสบ ความจำเสื่อม ยึดอาชีพหมอดู รับอยากหวนวงการ

อดีตดารานางแบบเซ็กซี่ "โยโกะ ทาคาโน" เปิดใจหลังป่วยสมองอักเสบ เพราะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทำให้สูญเสียความทรงจำบางส่วน และยึดอาชีพหมอดูเลี้ยงชีพมาปีกว่า โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า อาการป่วยตอนนี้ถือว่าดีขึ้นมาก เนื่องจากรักษาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่แรก ถึงแม้ว่าจะสูญเสียความทรงจำบางส่วนไป แต่ก็ไม่ได้ซีเรียส เพราะตนใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน และมีกำลังใจที่ดี พร้อมยอมรับยึดอาชีพหมอดูมาปีกว่า เพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว ซึ่งรายได้ถือว่าเป็นไปได้ดี ไม่ถึงขั้นตกอับตามที่เป็นข่าว แต่ก็ยังคงคิดถึงงานในวงการ และยินดีที่จะรับงานหากมีคนติดต่อมา ไม่ว่าจะงานแสดงหรือถ่ายแบบ

"อาการป่วยก็เหมือนเดิม แต่ต้องทานยาอยู่ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ป่วยเป็นโรคสมองอักเสบ เนื่องจากภูมิคุ้มกันของตัวเองผิดปกติ ส่วนโรคก่อนหน้านี้ที่เคยรักษามาก็ดีขึ้นหมดแล้ว หายหมดแล้วค่ะ จะเรียกว่าตอนนี้ปกติแล้วก็ได้ เพราะมันดูไม่ออก ตอนนี้รักษาโรคสมองอักเสบ ไม่ใช่สมองไม่เสื่อมนะคะ คอนเฟิร์มว่าไม่ได้เป็นโรคสมองเสื่อม ความจำที่หายไปก็ให้หายไป จะกลับมาก็กลับมา ภาพรวมคือยังจำเรื่องหลัก ๆ ในชีวิตต้องทานยากันชัก ถ้าตัวเกร็ง ตะคริวกิน แต่ก็ไม่ได้หนักหนามาก"

ความจำที่หายไปมีช่วงที่สำคัญบ้างไหม ?
"คงจะมีบ้าง แต่ไม่พยายามจะไปนึกถึงมันด้วย ชีวิตเราอยู่กับปัจจุบัน รู้ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ รู้ว่าเราเคยทำอะไรได้ ไม่ถึงขนาดกลับไปดูภาพเก่า ๆ จำผลงานไม่ได้ทุกอัน ก็มีบ้างที่จำได้ สาเหตุของโรค คือไม่ค่อยอยากจะคุยเรื่องป่วยเนอะ ภูมิคุ้มกันตัวเองมันล้นแทนที่จะป้องกัน เหมือนป้องกันไม่ให้เราเป็นหวัดดันไปฆ่าตัวเองซะงั้น

จะหายขาดไหม ?
"หมอก็ไม่ได้บอกว่าจะหายขาดไหม ก็ไปเรื่อย ๆ แบบนี้ เอาตอนนี้ดีกว่า ตอนนี้ดีก็ขอให้ดีไปตลอด ไม่ได้แย่ลง ดีขึ้นเยอะมากเหมือนปกติ เห็นชัดคือ 2 ปีที่ผ่านมา พอแล้วมั้งเรื่องป่วย เครียดมั้ยมันครียดไม่ได้ ถ้าเครียดก็ยิ่งหนัก ยิ้มสู้ค่ะ"

หลายคนเข้าใจว่าเราเป็นโรคความจำเสื่อมอยากจะชี้แจงอะไรไหม ?
"ขอพูดตรงนี้นะคะ ว่าเป็นสมองอักเสบ สมองอักเสบกับสมองเสื่อมไม่เหมือนกัน เนื้อเยื่อสมองอาจจะมีการติดเชื้อจากอะไรบางอย่าง โรคอัลไซเมอร์จะทำให้เราลืมว่ากินข้าวรึยัง แต่เรายังไม่ได้เป็นขั้นนั้น ยังปกติเหมือนคนปกติทั่วไป"

ตอนนั้นรู้ได้ไงว่าเป็นโรคนี้ ?
"ตอนแรกก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นโรคอะไร คิดว่าเป็นโรคที่เราเคยรักษาอยู่ก่อน เลยไปหาคุณหมอ มีอาการปวดตัว เหมือนชักแล้วคุณแม่เลยพาไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน นั่นคือจุดเริ่มต้นเลย คิดว่าเป็นโรคเดิมหรือเปล่า ก็เจาะไขสันหลังดูที่โรงพยาบาลนั้นไม่พบ รักษาผิดวิธีไปหน่อย ให้ยาเกินขนาด เลยไตวายเฉียบพลัน แม่พาออกจากโรงพยาบาลนั้นทันเลยรอดตาย ไปรักษาอีกโรงพยาบาลหนึ่ง"

ก่อนหน้านี้เคยผ่านนาทีเฉียดตายมาแล้ว ?
"ใช่ค่ะ เคยผ่านนาทีเฉียดตายมาแล้ว ไม่คิดว่าจะต้องใช้ชีวิตแบบนั้นอีก ทุกวันนี้เราอยู่กับความไม่แน่นอน เหมือนจะดีทุกอย่าง แต่กลายเป็นว่าวินาทีนึงเราอาจจะโดนรถชนก็ได้ เพราะฉะนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุด"

ตอนนี้ยึดอาชีพหมอดูเป็นหลัก ?
"ใช่ค่ะ หมอดูเป็นอาชีพหลักก็โอเคนะคะ คนเคยดูกับเราเค้าก็มาดูกับเราอีก เพราะไพ่ก็โกหกไม่ได้ เราอาจจะไปเรียนเพิ่มเติมให้อาจารย์ชี้แนะ อาจจะทำอาชีพเสริมอย่างอื่นด้วย สร้างรายได้ขนาดไหนไม่เท่ากับในวงการหรอกค่ะ การเป็นนักแสดงถ่ายละครย่อมได้เงินเป็นกอบเป้นกำ แต่หมอดูก็เป็นอาชีพที่สุจริต ทุกคนต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟค่าเน็ต เราไม่เป็นต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ เรายังจ่ายค่าเน็ตได้อยู่ แสดงว่าเราไม่ได้ตกอับ อันนี้แล้วแต่ว่าคนจะมองว่าเท่าไหร่ถึงจะพอมากกว่านะ ตอนนี้เรามีที่ซุกหัวนอน มีบ้านให้นอน มีรถให้ขับออกไปทำงาน พี่ว่ามันไม่ได้ตกอับนะ เป็นหมอดูมาปีกว่า จะสองปีแล้ว ดูไพ่ออราเคิล คนอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นยิปซี แต่ไม่ใช่ยิปซี มันคนละอันกัน"

ทำไมถึงเลือกเปนหมอดู ?
"ตอนที่ออกมาใหม่ ๆ จำอะไรไม่ค่อยได้จริง ๆ ไม่รู้จะเริ่มยังไงไปทางไหน นึกอะไรไม่ค่อยออก มีแต่คนทักให้ไปดูหมอสิ พอลองไปดูหมอ เขาก็บอกว่าเป็นหมอดูได้นี่มาเรียนไหม ประจวบเหมาะกับคุณแม่และพระหลายรูปทักมาแบบนี้ อายุ 40 จะต้องเป็นหมอดู แต่เราเคยเถียงพระว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็มีเหตุการณ์ทำให้เราต้องมาทางนี้ ก็เหมือนกับไปโรงพยาบาลล้างไต ความจำมีบ้างไม่มีบ้าง ลบเรื่องที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิตไปเริ่มต้นใหม่ เหมือนอย่างนั้นเลย ทุกวันนี้เลิกบุหรี่เลิกเหล้าทุกอย่าง นอกจากนี้ก็รักษาความสวยความงามให้คงที่ เช้าตื่นขึ้นมา อับดับแรกที่จะต้องเห็นคนไม่มีคู่ก็คือตัวเองในกระจก เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการดูแลตัวเองและสู้ เราเห็นตัวเองโอเคสู้ ไม่ใช่เห็นตัวเองป่วยแล้วต้องป่วยตาม เห็นตัวเองดูดีแล้วสู้ต่อ ต้องให้กำลังใจตัวเอง อาจจะไปขอจากเพื่อน ๆ และอาจารย์บ้าง"

อยากกลับมาทำงานในวงการไหม ?
"ยังอยากกลับเข้าวงการ แต่ยังไม่ได้มีทางไหนติดต่อ ตอนนี้คิดว่าตัวเองน่าจะพร้อมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา อยากกลับมาถ่ายเซ็กซี่อีกไหม ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้ามีบทที่คิดว่าน่าจะเล่นได้ ถ้าติดต่อมาก็ไม่เกี่ยงงาน ถ้ามีงานเซ็กซี่ติดต่อมา พอไหวไหมคะ จะมีคนดูเราไหม ก็ไม่มีติดต่อมา ส่วนใหญ่มาขอดูหมอ เปลี่ยนแนวไปเลยค่ะ ก็ต้องอยู่ในศีลธรรมพอสมควร เขากลัวผิดศีลมั้งคะ"

ข่าวออกมาว่าแอบมีลูกอยู่ ซุกลูก ?
"จริง ๆ แล้วเป็นยายของเด็ก แต่เด็กเรียกม่ามี๊ เรียกมาตั้งแต่เล็ก ๆ แล้ว คนก็เลยเข้าใจผิด จริง ๆ เป็นลูกของหลานสาว เขาอยู่กับปู่ย่าที่อายุมากแล้วก็ลำบากมาก ก็เลยไม่ไหวเพราะพ่อแม่เด็กหายไป เราเลยต้องเอามาดูแล เราน่าจะมีกำลังเพื่อทำงานดูแลให้การศึกษาเขามากกว่า หลานผู้หญิงคนโตอายุ 9 ขวบ คนเล็ก 6 ขวบเป็นผู้ชาย เคยเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด พ่อแม่เอากลับไปบ้านนอกแล้ว แต่ทางนู่นเค้าติดต่อมาว่าไม่ไหว เราเลยโอเค ทางเราน่าจะทำงานหารายได้เพื่อเลี้ยงเขา รอให้น้องสอบเสร็จก่อน น่าจะประมาณมีนาเหมือนเด็กทั่วไปที่สอบปิดเทอมเดือนมีนาคม - เมษายน ก็หน้าตาเป็นแบบนี้ไง ถึงไม่มีใครจีบ

 


 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook