ตร.ติดป้าย “ของกลางคดีอาญา” ที่กำแพง-ประตูวัดพระธรรมกายกว่า 17 จุด

ตร.ติดป้าย “ของกลางคดีอาญา” ที่กำแพง-ประตูวัดพระธรรมกายกว่า 17 จุด

ตร.ติดป้าย “ของกลางคดีอาญา” ที่กำแพง-ประตูวัดพระธรรมกายกว่า 17 จุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตร.ติดป้าย “ของกลางคดีอาญา” ที่กำแพง-ประตูวัดพระธรรมกายกว่า 17 จุด ด้านทนายความวัดพระธรรมกาย ยันการสร้างอาคารภายในวัดถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย

วันนี้ (17 ธ.ค.) เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจภูธรภาค 1 และจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองท่าโขลง และองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม จังหวัดปทุมธานี นำป้ายไม้ที่มีข้อความระบุว่า "ของกลางคดีอาญาที่ 2283/2559 ห้ามใช้ ห้ามเคลื่อนย้าย หรือ กระทำการใดๆ ให้เกิดความสูญเสีย สูญหาย หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายและถูกดำเนินคดีต่อไป" มาติดตั้งไว้บริเวณข้างกำแพงวัดและประตูทุกจุด กว่า 17 จุด

โดยนำไปติดตั้งบริเวณโดยรอบวัด และทุกประตูจากกรณีที่มีสิ่งปลูกสร้างของวัดเข้าข่ายผิดกฎหมาย ไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร ซึ่งระหว่างดำเนินการปิดประกาศอยู่มีเจ้าหน้าที่ของทางวัดออกมาสังเกตการณ์และบันทึกภาพ ส่วนรอบนอกวัดมีรถของลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ขับวนสังเกตการณ์เป็นระยะ ก่อนจะกลับเข้าไปภายในวัด

นายธัชนนท์ พรใบหยก ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากวัดพระธรรมกาย ยืนยันสิ่งปลูกอาคารต่างๆ ภายในวัดพระธรรมกายทั้งหมด เป็นไปตาม พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2550 ที่ระบุว่า การก่อสร้างภายในวัดไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากท้องถิ่น แต่ต้องส่งแบบให้ท้องถิ่นรับทราบโดยทางวัดยื่นแบบอย่างถูกต้องเพื่อสร้างอาคาร ลานจอดรถ สะพานข้ามคลอง รวมถึงสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เพื่อการศาสนา

ส่วนสะพานข้ามคลองสามที่มีรถจอดขวางไม่ให้ใช้งานตามกฎหมายนั้น ระบุ ไม่ได้รับทราบเรื่อง หากพบว่าในจุดไหนมีสิ่งปลูกสร้างผิดแบบและผิดกฎหมายก็ให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเข้าร่วมหารือ หรือร่วมตรวจสอบร่วมกันทางวัดพร้อมให้ความร่วมมือ

พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์การวัดพระธรรมกาย กล่าวว่า เพิ่งทราบว่าวัดพระธรรมกายถูกดำเนินคดี 158 คดี จากสื่อมวลชนและไม่ได้หารือร่วมกับฝ่ายกฎหมายแต่อย่างใด ยอมรับว่าการตรวจสอบเป็นของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองแต่ฝ่ายเดียว ฉะนั้นหากมีเรื่องสงสัยอยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาหารือร่วมกันเพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง

จากนั้นเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่จากสภ.คลองหลวง ได้เดินทางเข้าไปภายในวัดพระธรรมกายเพื่อนำหนังสือมายื่นต่อเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายหรือรักษาการเจ้าอาวาส เพื่อให้ส่งตัวนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยายุศิษย์วัดพระธรรมกาย ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามหมายจับของศาลธัญบุรี

และให้ส่งตัวพระธัมมชโย ตามกระทำความผิดพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ความผิด พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ตามหมายจับของศาลจังหวัดสีคิ้ว มาพบพนักงานสอบสวนสภ. คลองหลวงภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันได้รับหนังสือ

ทั้งนี้ หากผู้ต้องหาทั้งสองคนไม่อยู่ในวัดให้แจ้งพนักงานสอบสวนทราบ และหากไม่ส่งผู้ต้องหาอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี ปนับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดมาตรา 189 ฐานช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด เพื่อไม่ให้ต้องโทษโดยให้ที่พำนักซ่อนเร้นเพื่อไม่ให้ถูกจับกุมโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ภายหลังพนักงาน สภ.คลองหลวง ออกมาจากวัด พ.ต.ท.จิรโชติ ศรีภัทรภา สวป.สภ.คลองหลวง ซึ่งเป็นผู้นำหนังสือขอความอนุเคราะห์มาให้กับทางวัด ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า ทางวัดปฏิเสธรับหนังสือส่งตัวผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่จึงได้นำหนังสือขอความอนุเคราะห์ให้ส่งตัวผู้ต้องหามาติดไว้บริเวณด้านหน้าประตู 7

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook