วิศวกรหนุ่มตะกั่วป่ายึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
วิศวกรหนุ่มตะกั่วป่า ผันชีวิตยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ สร้างรายได้เดือนละครึ่งแสน
นายปุรเชษฐ์ ทิพย์พิทักษ์ อายุ 34 ปี เกษตรกรในพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลบางไทร อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งผันตัวเองจากหนุ่มวิศวกรมาปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ หรือ ผักไร้ดิน ทั้งกรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรดคอรัล ร็อกเก็ต บัตเตอร์เฮดและคอส โดยใช้ระบบน้ำหยดมาประยุกต์ ใช้เพื่อลดระยะเวลาการเจริญเติบโตของผัก ใช้เวลาในการปลูก 45 วัน เก็บผลผลิตครั้งละ 50-60 กิโลกรัม ส่งให้โรงแรมภายในอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งผักดังกล่าวเป็นผักสลัดที่ตลาดมีความต้องการสูง และมีราคาแพง โดยเฉพาะ ร็อกเก็ต กิโลกรัมละ 200 บาท สร้างรายได้มากกว่าเดือนละ 30,000-40,000 บาท นายปุรเชษฐ์ บอกว่า หลังจากจบปริญญาตรีคณะวิศกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ทำงานที่ได้เรียนมาอยู่ในกรุงเทพ เป็นเวลา 5 ปี แต่สุดท้ายต้องพาครอบครัวกลับบ้านเพราะทนแบกรับภาระหนี้สินไม่ไหว สำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์นั้นได้ศึกษาด้วยตนเอง จนประสบความสำเร็จและในอนาคตจะขยายโรงเรือนเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มีเพื่อนบ้านละแวกเดียวกันประสงค์จะปลูกด้วย นอกจากปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แล้ว พื้นที่เหลือข้างบ้าน ยังใช้ปลูกมะลิเพื่อเก็บดอกมาร้อยมาลัยขายเป็นรายได้เสริมวันละประมาณ 1,000-1,200 บาท โดยทำเองและขายเอง นอกจากนี้ ยังชวนญาติ ๆ ในหมู่บ้านปลูกผักสวนครัว อาทิ แตงกวา พริกไทย รวมทั้งแตงโมปลูกแซมในสวนปาล์มด้วย
นายสมชาย บริพันธุ์ เกษตรจังหวัดพังงา กล่าวว่า เกษตรกรตำบลบางไทร อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ส่วนใหญ่ยึดหลักพอเพียงในการดำเนินชีวิตประจำวันเพราะนอกจาก การทำสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันแล้ว ยังปลูกพืชอื่นร่วมด้วย เช่น แตงโม พริกชีขาว แตงกวาและบางส่วนยังนำแนวคิดทฤษฏีใหม่มาใช้ในแปลงเกษตรด้วย คือ การแบ่งส่วนพื้นที่ เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงปลาในบ่อ และในอนาคตจะมีแปลงสาธิตการปลูกข้าวด้วย