บทความพิเศษ-ตั้ง กก.อิสระ สางคดีลอบฆ่า 3 จังหวัดใต้

บทความพิเศษ-ตั้ง กก.อิสระ สางคดีลอบฆ่า 3 จังหวัดใต้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายอับดุลการิม ยูโซ๊ะ ได้รับการปล่อยจากเรือนจำเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2551 ครบกำหนด 3 เดือนที่ศาลจังหวัดปัตตานีตัดสินว่าไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหาว่าครอบครองอาวุธสงคราม

การพิจารณาคดีใช้เวลากว่า 1 ปี นายอับดุลการิมถูกควบคุมตัวในเรือนจำตลอดการพิจารณาคดีโดยไม่ได้รับสิทธิในปล่อยตัวชั่วคราว หรือสิทธิในการประกันตัว

เหตุการณ์การลอบสังหารผู้นำทางศาสนาในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายกรณีเป็นการกระทำที่อุกอาจ ด้วยอาวุธสงคราม ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง โดยมีเป้าหมายอยู่ที่บุคคลที่ต้องสงสัยจากเจ้าหน้าที่รัฐว่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อความไม่สงบ รวมทั้งผู้ที่ถูกดำเนินคดีแต่ศาลได้มีคำพิพากษาปล่อยตัวอย่างเช่นกรณีของนายอับดุลการิม ยูโซ๊ะ

พฤติกรรมของการสังหารและเป้าหมายที่มีต่อผู้ที่รัฐสงสัยนั้น ทำให้ชาวบ้านมักเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ ในขณะเดียวกันทางการก็มักจะอ้างว่าเป็นการฆ่าตัดตอน

ความเห็นที่แตกต่างสร้างความแตกแยกและกลายเป็นเงื่อนไขในการโจมตีกล่าวหารัฐตลอดมา

ปัจจุบันมีคดีฆ่ารายวันเกิดขึ้นจำนวนมากตามสถิติที่รายงานของศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ใต้ ปรากฏว่าระหว่างเดือนมกราคม 2550-ธันวาคม 2551 มีเหตุรุนแรง 1,837 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 3,933 คน เสียชีวิต 976 คน มีรายละเอียดระบุว่า 16 ราย ถูกสังหารด้วยปืนยาว ปืนขนาดใหญ่ 39 ราย ถูกยิงด้วยปืนสั้น 53 ราย เกิดจากการวิสามัญฆาตกรรม และ 745 ราย ถูกลอบสังหารโดยอาวุธปืนอื่นที่ไม่สามารถระบุได้

ปัจจุบันยังไม่มีการตรวจสอบปลอกกระสุนปืนและอาวุธปืนที่เป็นระบบและโปร่งใส

อีกทั้งปัจจุบันสถานการณ์ทำให้การชันสูตรพลิกศพตามกฎหมายและการผ่าชันสูตรตามหลักการทางนิติเวชไม่มีประสิทธิภาพดีพอที่จะนำหลักฐานเกี่ยวกับอาวุธปืน กระสุนปืน วิถีกระสุนและลักษณะบาดแผลมาประกอบการสืบสวนสอบสวนเพื่อนำอาชญกรและผู้มีส่วนร่วมบงการมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทั้งผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหา

บุคคลที่เสียชีวิตด้วยการลอบสังหารหลายรายเป็นทหาร ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สามจังหวัด หลายรายเป็นผู้นำศาสนา ผู้นำการเมืองท้องถิ่น ผู้ที่มีประวัติใกล้ชิดกับหน่วยงานความมั่นคง ผู้เคยถูกเชิญตัวตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือผู้ที่เคยผ่านการฝึกอบรมจากหน่วยงานรัฐ

หลายรายเป็นผู้ที่มีหมายจับหรือมีข่าวลือว่ามีหมายจับหรือมีรายชื่ออยู่ในบัญชีดำ หลายรายเป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคงและได้รับการตัดสินคดียกฟ้องออกมาใช้ชีวิตปกตินอกเรือนจำ

จากข้อมูลที่น่าเชื่อถือระบุว่า มีผู้ที่ศาลตัดสินยกฟ้องถูกลอบสังหารไปมากกว่า 11 ราย จากจำนวนผู้ที่ถูกยกฟ้องในช่วงปี พ.ศ.2549 รวมทั้งสิ้น 15 ราย ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าผู้ที่ถูกสังหารเหล่านั้น ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสังหารนอกกระบวนการยุติธรรม

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเห็นว่า สถานการณ์ความไม่สงบโดยเฉพาะการฆ่าสังหารรายวันมีความอ่อนไหวต่อภาพรวมการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัด จึงขอเสนอแนวทางดังนี้

1) ขอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการอิสระ สะสางคดีลอบฆ่าสามจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะการจัดให้มี คณะกรรมการอิสระเพื่อการตรวจสอบ ศึกษา วิเคราะห์ การกำหนดนโยบายการปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียงและทรัพย์สินของประชาชน เป็นแนวทางที่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและองค์กรสิทธิมนุษยชน

2) รัฐมีพันธหน้าที่ในการปกป้องสิทธิในชีวิตของประชาชน ทุกคน จึงขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหรือศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารที่เกิดขึ้น โดยมีการรายงานการดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้สาธารณชนได้รับทราบถึงการดำเนินคดีทางอาญาโดยรัฐ เพื่อสร้างมาตรฐานการการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจอย่างโปร่งใส

3) ขอให้กระทรวงยุติธรรมริเริ่มการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมชั้นต้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อลดเงื่อนไขความไม่เป็นธรรมที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นหนทางที่จะยุติการที่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล

4) ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรา 150 กรณีการไต่สวนการตาย การชันสูตรพลิกศพ และการผ่าศพพิสูจน์ ตามหลักการตามกฎหมายและหลักความเชื่อทางศาสนาที่ถูกต้อง เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยดำเนินการคลี่คลายปัญหาความไม่ไว้วางใจต่อกระบวนการยุติธรรมและต่อการอำนวยความยุติธรรมต่อรัฐให้มีน้อยลง

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

รายการคมชัดลึกตอน-เมื่อแต๋ว ตุ๊ด กระเทย ห่มผ้าเหลือง

จากการเปิดประเด็นข่าว พระตุ๊ด-เณรแต๋ว ใน จ.เชียงใหม่ เรื่อยมาจนถึงข่าว เจ้าอาวาสแปลงเพศ ที่ จ.ลำพูน ก่อให้เกิดความสลดสังเวชในหมู่พุทธศาสนิกชนเป็นวงกว้าง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook