6จว.ใต้ยังประสบอุทกภัย10จว.เฝ้าระวัง-นราฯท่วมสูง2อ.

6จว.ใต้ยังประสบอุทกภัย10จว.เฝ้าระวัง-นราฯท่วมสูง2อ.

6จว.ใต้ยังประสบอุทกภัย10จว.เฝ้าระวัง-นราฯท่วมสูง2อ.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 6 จังหวัด เตือน 10 จังหวัดภาคใต้ รับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก ขณะ นราฯ ฝนถล่มทำน้ำล้นตลิ่งท่วมสูง 2 อ. ขณะ สงขลากลับสู่ภาวะปกติเร่งสำรวจความเสียหาย

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 - 1 มกราคม 2560 เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันใน 12 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง และประจวบคีรีขันธ์ รวม 104 อำเภอ 689 ตำบล 5,048 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 263,710 ครัวเรือน 789,674 คน ผู้เสียชีวิต 35 ราย ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 6 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ระนอง ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และตรัง ยังคงมีสถานการณ์ ใน 6 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส ยะลา และสงขลา รวม 17 อำเภอ 109 ตำบล 750 หมู่บ้าน โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำในอำเภอพุนพิน และอำเภอเมือง สุราษฎร์ธานี รวม 20 ตำบล 137 หมู่บ้าน นครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากพนัง อำเภอหัวไทร อำเภอเชียรใหม่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอชะอวด รวม 53 ตำบล 462 หมู่บ้าน พัทลุง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอ เมืองพัทลุง และอำเภอเขาชัยสน รวม 2 ตำบล 8 หมู่บ้าน นราธิวาส มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ สุไหงปาดี อำเภอสุคิริน อำเภอจแนะ และอำเภอแว้ง รวม 21 ตำบล 93 หมู่บ้าน ยะลา มีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมืองยะลา รวม 3 ตำบล 6 หมู่บ้าน สงขลา มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหาดใหญ่ อำเภอนาหม่อม และอำเภอสะเดา รวม 10 ตำบล 44 หมู่บ้าน ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำบัญชีผู้ประสบภัย และทรัพย์สินที่เสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการติดตามคาดการณ์สภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้กับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง อาจส่งผลให้เกิดปริมาณฝนสะสม น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสาน 10 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี กระบี่ ตรัง และสตูล รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา และเขต 18 ภูเก็ต เตรียมพร้อมรับมือป้องกันและแก้ไขปัญหาจากฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ชาวประมงและผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและประกอบกิจกรรมทางทะเล เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 มกราคม 2560 ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป


นราฯ ฝนถล่มทำน้ำล้นตลิ่งท่วม 2 อ.สูง 1 ม. 1,700 หลังคาอ่วม

นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ จ.นราธิวาส กำลังประสบภาวะน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.ระแงะ และ อ.สุไหงโก-ลก โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำ เช่น คลองตันหยงมัส และ แม่น้ำสุไหงโก-ลก สาเหตุมาจากช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 2559 - 2 ม.ค. 2560 เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับฝั่งมาเลเซียเองก็มีปริมาณฝนมากเช่นกัน ทำให้แม่น้ำซึ่งรับมวลน้ำมาจากประเทศมาเลเซีย ปรับระดับเพิ่งสูงขึ้นจนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าว วัดระดับได้ 1 เมตร เบื้องต้นพบภาพรวมมีประชาชนของ 2 อำเภอได้รับผลกระทบแล้วประมาณ 1,700 ครัวเรือน โดยล่าสุดปริมาณน้ำยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา พื้นที่ 9 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ก็ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายใน 1 - 2 วันนี้ ปริมาณฝนจะลดลง ซึ่งทันทีที่ฝนหยุดตก สถานการณ์น้ำท่วมน่าจะคลี่คลายตามไปด้วย   


น้ำท่วมสงขลากลับสู่ภาวะปกติ-เร่งสำรวจความเสียหาย

น้ำท่วมสงขลาคลี่คลาย กลับสู่ภาวะปกติ เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำทำความสะอาดถนนและบ้านเรือน รวมทั้งสำรวจความเสียหายความคืบหน้าหลังเกิดฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของ จ.สงขลา ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาแก้ว ไหลหลากเอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณตัวเมืองหาดใหญ่, ชุมชนตลาดเก่าแก่ทุ่งลุง, สี่แยกไฟแดงถนนสายกาญจนวนิช นอกจากนี้ น้ำป่ายังเอ่อล้นท่วมหมู่บ้านรอบนอกบ้านควนขี้แรด และหมู่บ้านปากเด หมู่ 4 ต.พะตง อ.หาดใหญ่ สะพานและถนนเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงรถสัญจรผ่านไม่ได้ 

ล่าสุด สถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยน้ำได้ลดลงจนหมดทุกจุด เนื่องจากฝนหยุดตก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลพะตง ได้นำรถน้ำเร่งฉีดทำความสะอาดถนนและบ้านเรือน รวมทั้งสำรวจความเสียหายทั้งหมด ส่วนน้ำในคลองอู่ตะเภาระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่น่าเป็นห่วง สามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกจำนวนมาก


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook