รถไฟงดวิ่งลงใต้น้ำทะลักบางสะพานรพ.อพยพคนป่วย

รถไฟงดวิ่งลงใต้น้ำทะลักบางสะพานรพ.อพยพคนป่วย

รถไฟงดวิ่งลงใต้น้ำทะลักบางสะพานรพ.อพยพคนป่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น้ำป่าซัดคอสะพาน ถ.เพชรเกษม เขต อ.บางสะพาน ประจวบฯ ชำรุด รถไฟงดวิ่งลงใต้ เปิดให้บริการถึงสถานีหัวหินเท่านั้น ขณะที่ รพ.บางสะพานอ่วม น้ำท่วม 1 เมตร ต้องเร่งอพยพผู้ป่วย -ทร.เร่งผลักดันน้ำนครศรีธรรมราช วันนี้ส่งเรือเพิ่มไปสุราษฎร์ธานีอีก

นายกิตติกรณ์ เทพอยู่อำนวย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ขณะนี้ที่ อ.บางสะพานพบว่าทั่วทุกจุดทั้งอำเภอ กำลังได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก แม้ว่าล่าสุดจะไม่มีมวลน้ำหลากลงมาจากเทือกเขาตะนาวศรีเพิ่มเติม แต่หลายพื้นที่ก็ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ วัดระดับสูงสุดกว่า 1 เมตร นอกจากนี้ยังพบว่ามีคอสะพาน บริเวณถนนเพชรเกษม จุดเลยแยกเลี้ยวเข้าอ.บางสะพาน (ขาล่องใต้) หลักกม.ที่ 365 + 800 รวมถึงขาขึ้น กทม. ชำรุดเสียหาย เบื้องต้นหลายหน่วยงานอยู่ระหว่างเร่งให้ความช่วยเหลือ เข้าสร้างสะพานเบย์ลี่ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว

ส่วนสถานการณ์ขบวนรถไฟจาก กทม. ที่จะมุ่งหน้าเดินทางมายังภาคใต้ ปัจจุบันพบว่า ขบวนรถ 39 ด่วนพิเศษ กรุงเทพ - สุราษฎร์ธานี และ ขบวน 43 ด่วนพิเศษ กรุงเทพ - สุราษฎร์ธานี สามารถให้บริการได้ถึงเพียง สถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เท่านั้น สาเหตุมาจากเกิดน้ำท่วมบริเวณรางรถไฟ ที่อ.บางสะพาน ประกอบกับบางแห่งเกิดการชำรุดเสียหาย จึงทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง

ทางด้าน นายเจริญ เจริญลักษณ์ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่โรงพยาบาลบางสะพาน ส่งผลให้ภายในพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องขนย้ายผู้ป่วยหนักเข้าไปรักษาตัวต่อที่ โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ พร้อมนำผู้ป่วยที่เหลือขึ้นไปอยู่ในที่สูง โดยวันนี้พบว่าปริมาณน้ำเริ่มลดลงแต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ เนื่องจากปัจจัยภาวะทะเลหนุนสูง คาดว่าภายในเวลาประมาณ 10.00 น. มวลน้ำจะสามารถระบายลงทะเลได้ดีขึ้น ส่วนภาพรวมโรงพยาบาลอื่น ๆ ในอำเภอบางสะพาน ประกอบด้วย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) 14 แห่ง พบว่า ทั้งหมดได้รับผลกระทบ ต้องปิดให้บริการ 2 แห่ง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะมีจุดใดต้องปิดเพิ่มเติมหรือไม่ สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือล่าสุดทีมแพทย์จากโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ จะเข้ามาเปิดจุดให้บริการทดแทน 4 แห่งในพื้นที่ อ.บางสะพาน เช่น ที่ ร.ร.บางสะพานวิทยา และ องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)กำเนิดนพคุณ ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่ได้ประสบปัญอุทกภัย สำหรับบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยเป็นการชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สำหรับนำข้อมูลมาประเมินหาแผนงานที่เหมาะสมในการช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป


ล่าสุด น.อ.สรวิชญ์  สุรกุล ผู้บังคับการกองบิน 5 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะที่บริเวณ รพ.บางสะพาน ว่าตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา ได้มีมวลน้ำจำนวนมากและไหลแรงจนพัดเอากระสอบทรายที่นำมากั้นไว้พังทะลายลงมา จากนั้นประมาณ 23.00น.ระดับน้ำก็นิ่งแต่ยังมีระดับสูงประมาณ 1.30 เมตร อีกทั้งยังมีปัญหาไฟฟ้าดับ ขณะที่ล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว โดยทาง รพ.ได้ลำเลียงนำผู้ป่วยหนักกลับไป รพ.ประจวบฯ

ทั้งนี้ ในส่วนของ รพ.บางสะพาน ยังไม่สามารถรองรับผู้ป่วยนอกได้ทั้งหมด เนื่องจากอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆยังไม่พร้อมเช่น ห้องแล็ป โดนทาง ผอ.รพ.และบุคคลากรของ รพ.จะมีการประชุมกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป 

ส่วนในวันนี้ที่กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังมีฝนตกหนักถึงหนักมากนั้น ทางเจ้าหน้าที่เองจะยังคงกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ พร้อมกับเตรียมสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ด้วย 


ทร.เร่งผลักดันน้ำนครศรีฯ-สุราษฎร์ธานี

พล.ร.อ.จุมพล ลุมพิกานนท์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ภารกิจหลักขณะนี้ คือ การเร่งผลักดันน้ำ ซึ่งได้ดำเนินการติดตั้งเรือผลักดันน้ำ ที่ อ.ชะอวด 30 ลำ และ อ.ปากพนัง 20 ลำ เรียบร้อยแล้ว และสามารถผลักดันน้ำได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้บางพื้นที่เริ่มลดระดับลงแล้ว และในวันนี้ จะมีการลำเลียงเรือผลักดันน้ำไปติดตั้งเพิ่ม ที่ จ.นครรศรีธรรมราช อีก 20 ลำ และสุราษฎร์ธานี 15 ลำ เพื่อเร่งผลักดันน้ำด้วย 

พร้อมกันนี้ ยังได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือทางทะเล โดยใช้เรือรบหลวง อ่างทอง และเรือรบหลวงกระบี่ ในการประกอบอาหาร แจกจ่ายประชาชนรวมถึงแจกจ่ายสิ่งของช่วยเหลือต่าง ๆ ให้ทั่วถึง ในพื้นที่ริมฝั่งทะเล ขณะที่ กองทัพเรือภาค 2 จะเข้าสนับสนุน ในพื้นที่ จ.นครรศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี อย่างต่อเนื่องด้วย   

ทั้งนี้ โฆษกกองทัพเรือ ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของ จ.ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ที่น้ำท่วมหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา จะมีกองทัพเรือภาค 1 ซึ่งไปตั้งศุนย์อยู่ที่ จ.ชุมพร ได้เร่งดำเนินการสำรวจ และให้ความช่วยเหลือแล้ว 


เมืองตรังวิกฤติท่วม4ตำบลน้ำมาก-ทะเลหนุนทำระบายช้า

นายนันธวัช เจริญวรรณ นายอำเภอเมืองตรัง จ.ตรัง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ อ.เมืองตรัง กำลังเผชิญกับปัญหาน้ำท่วม โดยพบว่าน้ำส่วนใหญ่เป็นมวลน้ำจาก จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งไหลผ่านแม่น้ำตรังก่อนจะออกสู่ทะเล ล่าสุดพบพื้นที่ 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.นาโต๊ะหมิง, นาตาล่วง, หนองตรุด และ บางรัก ค่อนข้างอยู่ในภาวะวิกฤติ ระดับน้ำสูง 1 - 2 เมตร เบื้องต้นชาวบ้านต้องอพยพออกจากบ้านเรือนขึ้นมาอาศัยอยู่บนถนน ซึ่งหลายหน่วยงานได้จัดตั้งเต็นท์ชั่วคราวไว้ให้ 

ด้าน นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ พบว่าปริมาณน้ำจาก จ.นครศรีธรรมราช มีมาก ประกอบกับปัจจัยทะเลหนุนสูง จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำระบายลงสู่ทะเลได้ช้า โดยวันนี้จะมีการลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไป อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทางอำเภอ ได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง พร้อมน้ำดื่ม รวมถึงสุขาชั่วคราว เข้าไปมอบให้ชาวบ้านเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งจากการประเมินข้อมูลคาดว่าน่าจะมีประชาชนไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้


ปลัดประจวบฯยันคนไข้รพ.บางสะพานปลอดภัย

นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากสภาพฝนตกหนักในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้การระบายน้ำออกจากพื้นที่ อ.บางสะพาน มีปัญหาระบายได้ช้า และทำให้มีน้ำท่วม โรงพยาบาลบางสะพาน นั้น ยืนยันว่าคนไข้ในโรงพยาบาลทุกคนปลอดภัย โดยได้ย้ายคนไข้ขึ้นชั้นบน รวมทั้งอุปกรณ์การแพทย์ ทั้งหมดแล้ว โดยมีการยืนยันมีคนไข้ทั้งหมด 65 คน ย้ายไปโรงพยาบาลทับสะแก และ โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ 26 คน เหลือ 39 คน

ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้ย้ายกองอำนวยการแก้ไขน้ำท่วมจากโรงพยาบาลบางสะพาน ไปยังโรงเรียนบางสะพานวิทยา เพื่อใช้เป็นจุดกระจายความช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึง ขณะที่ความเสียหายคอสะพานที่คลองวังยาว บริเวณฝั่งขาล่องใต้ กม. 386-502 หมวดทางหลวงบางสะพาน ต้องเปิดให้รถวิ่งสวนทางกันเพื่อระบายการจราจร และได้รับการยืนยันว่าศูนย์สะพานปทุมธานี จะมาทอดสะพานเบย์ลี่ ให้เพื่อบรรเทาปัญหาก่อน แต่ยังไม่สามารถยืนยันเวลาที่ชัดเจนได้เนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง 


น้ำยังท่วมเมืองชุมพรพบแนวโน้มดีขึ้น-อ.หลังสวนคลี่คลาย

นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมืองชุมพร จ.ชุมพร เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ที่ อ.เมืองชุมพร ทั้ง 16 ตำบล กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมขัง โดยถนนสายหลัก เช่น ถ.เพชรเกษม บริเวณสี่แยกปฐมพร เขต อ.เมือง จ.ชุมพร พบมีน้ำท่วมขังพื้นผิวการจราจรสูง 30 เซนติเมตร รถเล็กสามารถสัญจรผ่านได้แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ส่วนสภาพถนนสายรอง ใน ต.บ้านนา ตากแดด ขุนกระทิง วังไผ่ ท่ายาง บางหมาก ยังคงมีน้ำท่วมขังสูง 50 - 60 เซนติเมตร ล่าสุดระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง คิดเป็นร้อยละ 90 บางจุด ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศแบบลุ่มต่ำ พบน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของตัวบ้าน หรือสูงกว่า 1 เมตร โดยเฉพาะที่ ต.ตากแดด เบื้องต้น หลายหน่วยงานกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายใน 3 วัน จากนี้ไป สถานการณ์น่าคลี่คลายจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ 

ด้าน ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอหลังสวน จ.ชุมพร เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.หลังสวน ปัจจุบันเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากไม่มีมวลน้ำไหลบ่าเข้ามาสมทบ แต่ปริมาณน้ำก็ยังถือว่ามากพอสมควร โดยที่ ต.พ้อแดง พบยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่บางจุด ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ต่างทยอยกลับเข้าบ้านพักเพื่อทำความสะอาดที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ ทางจังหวัดร่วมกับทหารยังสนธิกำลังลงพื้นที่ฟื้นฟูบริเวณที่ได้รับความเสียหายรวมถึงเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่องอีกระยะ


การรถไฟหยุดเดินรถแค่สถานีรถไฟประจวบฯ

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยความคืบหน้า การเปิดให้บริการเดินรถเส้นทางสายใต้ ประจำวันที่ 10 มกราคม 2560 ว่า ขณะนี้ยังคงมีสถานการณ์ ฝนตกหนักต่อเนื่อง และมีแนวโน้มการเกิดน้ำท่วมขยายเป็น วงกว้างจนกระทบต่อการให้บริการเดินรถของการรถไฟฯ  โดยล่าสุดได้รับรายงานว่าได้เกิดน้ำท่วมหนักขึ้นสูงหลายจุดจนทำให้ทางขาดระหว่างสถานีบางสะพานใหญ่ - ชะม่วง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้การรถไฟฯ ต้องมีการปรับและงดการ เดินรถบางขบวน พร้อมปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทาง ในเส้นทางสายใต้ ให้เดินรถได้ถึงแค่สถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร


ส่วนขบวนที่เหลือได้งดการให้บริการเดินรถทั้งหมดจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมลดลง และตรวจสอบความพร้อมของสภาพ ทางแล้วเสร็จโดยผู้โดยสารที่จองตั๋วล่วงหน้าไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทางภาคใต้แล้ว สามารถติดต่อเพื่อขอคืนเงินค่าโดยสาร ได้เต็มราคา และในช่วงนี้การรถไฟฯ ขอแจ้งว่า จะไม่มีบริการขนถ่ายผู้โดยสารต่อทางรถยนต์ เนื่องจากเส้นทางถนนมีน้ำท่วมสูงเช่นกัน ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารที่มีความประสงค์เดินทางในเส้นทางรถไฟสายใต้ ให้ตรวจสอบและติดต่อสอบถามรายละเอียดเป็นระยะ ก่อนเดินทางได้ที่สายด่วนโทร 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง


ทล.สรุปเส้นทางเดินรถ10ม.ค.

จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรมทางหลวง โดยสำนักงานทางหลวงที่ 15 ประจวบคีรีขันธ์ ได้รายงานสรุปเหตุการณ์ภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินในเส้นทางสายหลักที่จะเดินทางไปสูภาคใต้ ประจำวันที่ 10 มกราคม 2560 มีสายทางจำนวนทั้งสิ้น 5 สายทาง จำนวนทั้งสิ้น 24 แห่ง มีสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ 4 แห่ง การจราจรสามารถผ่านได้ 20 แห่ง ผ่านไม่ได้ 4 แห่ง ประกอบด้วย ทางหลวงหมายเลข 4 ห้วยยาง -บางสะพาน ในพื้นที่ อ.ทับสะแก การจราจรผ่านไม่ได้จำนวน 1 แห่งเนื่องจาก คอสะพานขาดด้านฝั่งขาเข้าอยู่ระหว่างดำเนินการทอดสะพานเบย์ลี่ บางสะพาน - น้ำรอด ในพื้นที่ อ.บางสะพาน การจราจรผ่าน
ไม่ได้จำนวน 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 3374 บางสะพาน- หนองหัดไท ในพื้นที่ อ.บางสะพาน ทางหลวงหมายเลข 3497 ช้างแรก - บางสะพานน้อย 

ทั้งนี้ ยังเกิดฝนตกหนักในบางพื้นที่ของภาคใต้ สถานการณ์ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่มจึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานของกรมทางหลวง เตรียมความพร้อมในการรับมือกับ พร้อมทั้งเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นตลอด 24 ชั่วโมง โดยภารกิจหลักคือช่วยให้การจราจรผ่านได้ก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่สะพานขาด ดังนั้น ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้เส้นทางเพิ่มขึ้น หากต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook