เปิดใจ ตำรวจเจ้าของคดีจับแพะครู วอนอย่าฟังความข้างเดียว

เปิดใจ ตำรวจเจ้าของคดีจับแพะครู วอนอย่าฟังความข้างเดียว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการครู ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ถูกจองจำในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต ซึ่งเป็นคดีความที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม เมื่อปี 2548 ศาลพิพากษาให้ติดคุกเมื่อปี 2556 เป็นเวลา 3 ปี 2 เดือน ก่อนได้รับอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 ติดคุกเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน และร้องเรียนไปยังกระทรวงยุติธรรมในการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ เนื่องจากเธอยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิด ซึ่งขณะนี้เพื่อนของนางจอมทรัพย์ได้สืบหาคนผิดตัวจริงจนพบ พร้อมร้องเรียนจนเรื่องได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง

ล่าสุด (12 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสัมภาษณ์ตำรวจเจ้าของคดี พ.ต.ท. ทงศักดิ์ โพธิ์โหน่ง รอง ผกก.( สอบสวนฯ) สภ.คำชะอี ช่วยราชการ สภ.ผึ่งแดด อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุรถยนต์ชนรถจักรยาน 2 ล้อ มีผู้เสียชีวิตที่ สภ.เรณูนคร จังหวัดนครพนม ในวันเกิดเหตุ ขณะเข้าเวรพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งอุบัติเหตุ หลังได้รับแจ้งก็ได้ไปยังที่เกิดเหตุ พบจักรยาน 2 ล้อ ส่วนรถยนต์ได้หลบหนีไป ส่วนคนขี่จักรยานผู้บาดเจ็บมีพลเมืองดีส่งโรงพยาบาลนาแก

จากการตรวจสอบ พบว่าจักรยาน 2 ล้อตะเกียบหลุด มีรอยสีรถที่ชนติดอยู่ที่ตะเกียบกับบังโคลนหน้าของรถจักรยาน จึงได้ถ่ายภาพและทำแผนที่เกิดเหตุ จากการสอบพยาน 3 ปาก และสอบเจ้าของรถ (ญาตินางจอมทรัพย์) ซึ่งเป็นรถต้องสงสัย ซึ่งจากการสอบปากคำทราบว่ารถเป็นของ นางจอมทรัพย์ ที่ขายต่อให้ญาติ แต่นางจอมทรัพย์ได้ไปยืมรถคันดังกล่าวจากญาติตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อไปทำธุระ ซึ่งอุบัติเหตุเกิดประมาณ 1 ทุ่มของวันนั้น

จากนั้นได้ตรวจสอบรถ มีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนครพนม มาตรวจสอบระหว่างจักรยานกับรถยนต์ ปรากฏว่าเข้ากันได้ในช่วงสูงต่ำ จึงได้ขอป้ายทะเบียนรถยนต์และจักรยาน 2 ล้อ ส่งไปพิสูจน์หลักฐานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กทม. ผลออกมาว่าเป็นสีเดียวกันเข้ากันได้ จึงได้ออกหมายเรียกไปถึง นางจอมทรัพย์ ผู้ถูกกล่าวหา ให้มาพบพนักงานสอบสวนพร้อมทนาย ในชั้นสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ ขอให้การชั้นศาล และไม่ขออ้างพยานใดๆ จะไปอ้างพยานแถลงข้อเท็จจริงในชั้นศาล จนศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา พิพากษาถึงที่สุด

พ.ต.ท. ทงศักดิ์ โพธิ์โหน่ง กล่าวต่อไปอีกว่า ตนได้ทำไปตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือ เชื่อมโยงได้ทุกขั้นตอนไม่มีเลศนัย ไม่ได้เรียกร้องรับผลประโยชน์ใดๆ จากผู้ใดทั้งสิ้น ได้ทำตามหน้าที่ของตนเองทุกอย่าง ขอวิงวอนประชาชน อย่าไปฟังความข้างเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ปฏิบัติหน้าที่ก็ทำหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมา ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ก็ไม่เรียกร้องผลประโยชน์จากผู้ใดแต่อย่างใด

อ่านข่าว : เปิดใจ "ครูจอมทรัพย์" ตกเป็นแพะติดคุกฟรี ทำชีวิตพังพินาศ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook