โหรวารินทร์จ่อฟ้องกลับ ทนายสงกรานต์ กล่าวหาตัดไม้สัก

โหรวารินทร์จ่อฟ้องกลับ ทนายสงกรานต์ กล่าวหาตัดไม้สัก

โหรวารินทร์จ่อฟ้องกลับ ทนายสงกรานต์ กล่าวหาตัดไม้สัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โหรวารินทร์ แถลงโต้ทนายสงกรานต์-อดีต ผกก.น่าน ให้ข่าวสื่อระบุโหรดังภาคเหนือเอี่ยวตัดไม้สักในโครงการป่าต้นน้ำเมืองน่านจนโล้นทั้งดอย พร้อมเชิญตำรวจ-ป่าไม้มาดูกับตา ลั่นเอาเรื่องฐานให้ข่าวบิดเบือน

นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ นักโหราศาสตร์ชื่อดัง เจ้าของฉายาโหร คมช. เชิญพล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ผู้ดูแลด้านการป้องกันปราบปรามทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และนายผณินทร์ ทับกล่ำ หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (สปป.3) (ภาคเหนือ) กรมอุทยานแห่งชาติ พร้อมสื่อมวลชน ร่วมตรวจสอบภายในวิหารหลวงปูเกวาลัน สำนักสุขิโต และโครงการหมู่บ้านหรู "ฮิมมา" ตั้งอยู่บริเวณถนนโชตนา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รวมทั้งร้านชอมพอร์ ลานนา เรสเตอรอง ซึ่งตั้งอยู่ย่านกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นธุรกิจของโหรวารินทร์ทั้งหมด

การเชิญเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสถานที่ทั้ง 3 แห่งครั้งนี้ เนื่องจากมีข่าวที่เผยแพร่ทางสื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่ง (สปริงนิวส์) เป็นการแถลงข่าวของนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ พ.ต.อ.สองขวัญ รัชดาธนวัฒน์ อดีตผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธร จ.น่าน กล่าวหาว่า โหรดังคนหนึ่งทางภาคเหนือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังลักลอบตัดไม้สักทองจำนวนมาก ในโครงการพระราชดำริป่าต้นน้ำที่ จ.น่าน เพื่อนำมาสร้างรีสอร์ตและบ้านไม้สักหรูในตัวเมืองเชียงใหม่

หลังจากจากตรวจสอบเสร็จสิ้นโหรวารินทร์ ได้เปิดแถลงข่าว ระบุว่า เชิญสองหน่วยงานหลักด้านการป้องกันปราบปรามทรัพยากรธรรมชาติ มาตั้งดูโครงการของตนเองทั้ง 3 จุดครั้งนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมาได้มีการออกสื่อทีวีของ ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สองขวัญ รัชดาธนวัฒน์ อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร จ.น่าน

โดยทั้งสองได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่กรุงเทพ ระบุว่ามี โหรชื่อดัง และเป็นผู้มีอิทธิพลทางภาคเหนือ ลักลอบตัดไม้สักทองจำนวนมากในโครงการพระราชดำริป่ารักน้ำที่ จ.น่าน เพื่อนำไปทำรีสอร์ตและบ้านไม้สักหรู ในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งแต่ละหลัง มีมูลค่ากว่า 24–54 ล้านบาท โดยมีการลักลอบตัดป่าไม้คุ้มครองมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2549 และยังมีแนวโน้มจะขยายโครงการต่ออีก แม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน่านจะพยายามจับกุม แต่ก็ถูกข้าราชการระดับสูง มาให้ความช่วยเหลือทุกครั้ง

ซึ่งการเชิญมาตรวจสอบครั้งนี้เพื่อให้ทุกหน่วยงานได้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด เพราะมีคนใส่ร้ายตนออกสื่อว่าใช้ไม้สักเถื่อนผิดกฎหมายสร้างโครงการบ้านจัดสรรและร้านอาหาร ซึ่งโครงการหมู่บ้านฮิมมา ของตนสร้างด้วยปูนทั้งหลัง เสริมด้วยไม้มะค่า เพียงชนิดเดียว ซึ่งไม้มะค่าก็ซื้อจากบริษัทเอกชนค้าไม้อย่างถูกต้องตามกฎหมายมีหลักฐานทุกอย่าง โครงการนี้เป็นบ้านหรูในเนื้อที่กว้างราคาต่ำสุด 24 ล้านบาท แพงสุด 120 ล้านบาท มี 40 หลัง ส่วนร้านชอมพอร์ เป็นร้านอาหารกลางเมืองเชียงใหม่ สร้างด้วยปูนผสมไม้เชอร์ล่า ที่เป็นไม้สังเคราะห์ ไม่มีไม้สักหรือไม้อื่นๆ

ส่วนที่วิหารหลวงปู่เกวลาลันก็ทำจากปูนทั้งหมด การให้ข่าวของบุคคลทั้งสองคนสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับตนอย่างมาก มีการนำภาพโครงการทั้งสองของตนไปออกสื่อ บอกว่าไปตัดจากพื้นที่ป่าที่จังหวัดน่านมา วันนี้จึงเชิญเจ้าหน้าที่ตรวจ หากผิดจริงก็ให้จับทันที หลังจากนี้ตนจะขอเรียกร้องชื่อเสียงคืนมากำลังปรึกษาทางกฎหมายเพื่อดำเนินการกับบุคคลทั้งสอง ที่ให้ข้อมูลเป็นเท็จแก่ประชาชน รวมทั้งสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบช.ภ.5 กล่าวว่า การตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้วันนี้ ไม่พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายใดๆทั้งสิ้น ไม้ที่เสริมก็เป็นไม้ที่มีการซื้อขายถูกต้อง ไม่ผิดกฎหมาย จากนี้ทางตำรวจภาค 5 จะขอเชิญนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ และพ.ต.อ.สองขวัญ รัชดาธนวัฒน์ อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร จ.น่าน มาให้ข้อมูล เพื่อการสืบทราบข้อเท็จจริง และจะสั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 5 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพราะการทำลายป่าไม้ เป็นการทำลายชาติ ที่ตำรวจต้องปราบปรามให้สิ้นซากไม่ให้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook