โอละพ่อ อ้างฝรั่งนั่งบนสายพานประท้วง ที่แท้ถ่ายเล่น

โอละพ่อ อ้างฝรั่งนั่งบนสายพานประท้วง ที่แท้ถ่ายเล่น

โอละพ่อ อ้างฝรั่งนั่งบนสายพานประท้วง ที่แท้ถ่ายเล่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่มาผู้โพสต์ลงในเฟชบุ๊กโดยเป็นภาพนักท่องเที่ยวชายชาวต่างชาติ นั่งอยู่บนสายพานลำเลียงกระเป๋า ภายในอาคารผู้โดยสารภายในสนามบินภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. โดยอ้างว่านักท่องเที่ยวทำไปเพราะประท้วง เนื่องจากรอกระเป๋าออกจากสายพานนานมาก

ล่าสุด (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ปรากฏว่า นางมลฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ติดภารกิจในระหว่างเดินขึ้นไปชี้แจงเรื่องกับผู้ใหญ่ที่กรุงเทพฯ จึงมอบหมายให้ นายโกศล สาตร์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัย และนายพงศักดิ์ ศรีใหม่ เจ้าหน้าที่อาวุโสชำนาญการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต มาชี้แจงสื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าว

และนำสื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพบรรยากาศภายในจุดรับสัมภาระในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ พบว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศต่างยืนรอรับกระเป๋าที่มากับสายพานลำเลียงเป็นจำนวนมาก หลังจากลงเครื่องมาประมาณ 5 นาที กระเป๋าของผู้โดยสารเริ่มทยอยออกมาจากสายพานเป็นระยะ ซึ่งถือว่าเป็นเวลาปกติกระเป๋าไม่ออกมาล่าช้าแต่อย่างใด

จากการสอบถาม พนักงานของสายการบินแห่งหนึ่ง ที่อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวในจุดรับกระเป๋า ทราบว่า โดยปกตินักท่องเที่ยวจะต้องรอกระเป๋าประมาณ 15-20 นาที ถือว่านานที่สุดแล้ว แต่ส่วนใหญ่ประมาณ 5-10 นาทีกระเป๋าสัมภาระต่างๆ ก็จะถูกลำเลียงมาขึ้นสายพานแล้ว

แม้ในช่วงนี้อาคารภายในประเทศจะมีการปรับปรุงบางส่วนก็ตาม แต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในยังใช้ได้ตามปกติ ระบบสายพานลำเลียงสัมภาระของนักท่องเที่ยวยังใช้การได้ตามปกติ ไม่ได้เสียหรืออยู่ระหว่างซ่อมแซมแต่อย่างใด ทำให้สายการบินสามารถบริการนักท่องเที่ยวได้ตามปกติ

ด้าน นายสมศักดิ์ พนักงานบริการผู้โดยสาร สายการบินแห่งหนึ่ง ผู้อยู่ในเหตุการณ์ นักท่องเที่ยววัยรุ่นชาวต่างประเทศแอบขึ้นไปนั่งบนสายพานลำเลียงสัมภาระเมื่อวันที่เสาร์ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา เล่าว่า ในระหว่างนั้นผู้โดยสารของบริษัทตนได้ลงเครื่องมายืนรอรับสัมภาระในช่องสายพานที่ 1 ได้ประมาณ 2-3 นาที

ในระหว่างนั้นสายพานยังไม่เดิน เนื่องจากสัมภาระยังไม่มา ก็ได้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชายวัยรุ่น 2 คน ได้แอบผลัดกันขึ้นไปนั่งบนสายพาน และถ่ายภาพกันแบบสนุกสนาน ไม่ได้มีการประท้วงหรือโวยวายเรื่องกระเป๋ามาล่าช้าแต่อย่างใด และมีผู้โดยสารชาวไทยได้ถ่ายภาพด้วย

ตนจึงเข้าไปตักเตือนว่าขึ้นไปนั่งบนสายพานไม่ได้ เพราะอาจเป็นอันตราย นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน ก็ได้ขอโทษและก็มายืนรอรับกระเป๋าตามปกติ ประมาณ 7-8 นาที กระเป๋าก็เริ่มทยอยออกจากสายพาน ก็ถือว่าเป็นเวลาที่ปกติไม่ได้ล่าช้าแต่อย่างใด

และขอยืนยันว่าในวันนั้นไม่มีผู้โดยสารประท้วงโวยวาย หรือแสดงความไม่พอใจในการมารับบริการกระเป๋าในจุดดังกล่าวแต่อย่างใด โดยตนไม่อยากเอาผิดตามระเบียบ เพราะเห็นว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และเขาก็กำลังเดินทางมาท่องเที่ยวบ้านเรานำเงินตราต่างประเทศมาให้บ้านเราด้วย จึงไม่เอาความ แต่ไม่เข้าใจว่าคนที่นำไปลงในโลกโชเชียลฯนั้นต้องการอะไร

ด้าน นายโกศล สาตร์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่าหลังทราบเรื่อง นางมลฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้ตนทำการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวว่าเป็นตามที่สังคมโชเชียลฯลงไปหรือไม่

ซึ่งจากการสอบสวน ปรากฏว่า วันเวลาดังกล่าวว่าในพื้นที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ไม่มีผู้โดยสารประท้วงหรือโวยวายในเรื่องใดขึ้นภายในอาคารหรือนอกอาคารเลย

และจุดรับกระเป๋าจุดที่ไปลงในโชเชียลฯสายพานก็ทำงานตามปกติ ไม่ได้เสียหรือยู่ในระหว่างการซ่อมแซมแต่อย่างใด โดยสายพานทั้ง 4 สาย ยังใช้การได้ตามปกติ แม้ทางการท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตจะปิดปรับปรุงอาคารบางส่วนก็ตาม

โดยปกติวันหนึ่งๆ เฉพาะอาคารโดยสารภายในประเทศต้องรับเที่ยวบินถึง 150 กว่าเที่ยวบิน หากสายพานลำเลียงสัมภาระเสียแม้แต่เครื่องเดียว จะเกิดความโกลาหลกันทั้งสนามบินแน่นอน

ที่ผ่านมาทางการท่าจะดูแลซ่อมบำรุงระบบสายพานรับสัมภาระทุกวันๆ จะไม่ปล่อยให้เสียอย่างเด็ดขาด ฉะนั้นขอยืนยันว่าในวันเวลาดังกล่าวไม่ผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างประเทศประท้วงหรือโวยวาย ภายในจุดรับหรือภายเขตการท่าอากาศยานนานาชาติแต่อย่างใด

 และขณะนี้กำลังตรวจสอบที่มาที่ไปของโพสต์ดังกล่าวว่าเป็นของใคร เพื่อที่จะได้เชิญมาให้ข้อมูลว่าได้ภาพมาอย่างไรและทำไมถึงลงไปแบบนั้น ทั้งที่ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเลย เพราะเชื่อแน่ว่าหากมีเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริงสื่อมวลชนต่างต้องมาทำข่าวและเสนอข่าวออกไปแล้ว เพราะเรื่องนักท่องเที่ยวประท้วงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook