ห้ามขึ้นอาหารจานด่วนหลังก๊าซหุงต้มเริ่มปรับขึ้นราคา

ห้ามขึ้นอาหารจานด่วนหลังก๊าซหุงต้มเริ่มปรับขึ้นราคา

ห้ามขึ้นอาหารจานด่วนหลังก๊าซหุงต้มเริ่มปรับขึ้นราคา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. มีมติปรับราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม หรือ แอลพีจี เดือนกุมภาพันธ์ 2560 ขึ้นอีก 67 สตางค์ต่อกิโลกรัม จากเดิม 20 บาท 29 สตางค์ต่อกิโลกรัม เป็น 20 บาท  96 สตางค์ต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 1 ปี มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  ส่งผลให้ราคาก๊าซหุงต้มขนาด 15 กิโลกรัม จะปรับขึ้นถังละ 10 บาท โดยราคาแนะนำของกรมการค้าภายใน อยู่ที่ถังละ 355 บาท จากก่อนหน้านี้ที่ 345 บาท

โดยจากการสำรวจของทีมข่าว ทีมข่าวพีพีทีวีลงพื้นที่สำรวจราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม ที่ตลาดห้วยขวาง พบว่า ทุกร้านได้มีการปรับราคาขายก๊าซหุงต้มแล้วทุกขนาด ตั้งแต่ 3 บาท ถึง 30 บาท แล้วแต่ขนาดถัง โดยถังขนาด 15 กิโลกรัมปรับขึ้นไปอยู่ที่ถังละ 350 บาท  ซึ่งถือว่าอยู่ต่ำกว่าราคาแนะนำของกรมการค้าภายใน 

จากการสอบถามประชาชนในย่านนี้ ส่วนใหญ่บอกว่า กังวลต่อการปรับขึ้นราคาครั้งนี้  เนื่องจากส่งผลกระทบโดยตรง และกังวลว่าจะส่งผลให้ราคาสินค้าบริโภค โดยเฉพาะราคาอาหารปรุงสุกจะปรับเพิ่มขึ้นด้วย จึงขอให้ภาครัฐเข้ามากำกับดูแลเรื่องราคาสินค้าให้เข้มงวด

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ย้ำว่า การปรับขึ้นราคาดังกล่าวแทบไม่กระทบต่อต้นทุนอาหารตามสั่ง โดยเฉลี่ยก๊าซ 15 กิโลกรัมจะทำอาหารได้ประมาณ 200 – 300  จาน เมื่อเฉลี่ยแล้วเท่ากับว่าเป็นต้นทุนเพียงจานละ 10 สตางค์เท่านั้น การที่จะอ้างว่าต้องปรับขึ้นราคาอาหารเพราะต้นทุนค่าก๊าซจึงเป็นสิ่งที่ไม่สมควร และก่อนหน้านั้นก๊าซก็เคยปรับขึ้นราคาสูงถึง 390 บาทต่อถัง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook