หมอแนะคู่รัก14กุมภาวางแผนกันโรค ธาลัสซีเมีย

หมอแนะคู่รัก14กุมภาวางแผนกันโรค ธาลัสซีเมีย

หมอแนะคู่รัก14กุมภาวางแผนกันโรค ธาลัสซีเมีย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แพทย์จุฬาฯ รณรงค์หนุ่มสาวคู่รักช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ วางแผนป้องกันโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียแต่เนิ่นๆ ทุกคู่ ควรตรวจเลือดก่อนแต่งงาน เพื่อแก้ไขปัญหาทางสังคม

ผศ.พญ.ปราณี สุจริตจันทร์ สาขาโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการรณรงค์ป้องกันโรคโลหิตจางพันธุกรรมธาลัสซีเมียในช่วงวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ว่าทุกๆ ปีหนุ่มสาวและคู่รักมักจะเลือกเป็นวันแต่งงานหรือจดทะเบียนสมรสกันในช่วงวันดังกล่าว จึงควรมีการวางแผนป้องกันเรื่องการตรวจเลือดก่อนที่จะวางแผนแต่งงานหรือมีลูกคนต่อไป เพื่อป้องกันโรคโลหิตจางพันธุกรรมธาลัสซีเมีย ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยในปัจจุบัน ทั้งนี้โดยเฉลี่ยชาวไทยเป็นพาหะของธาลัสซีเมียชนิดใดชนิดหนึ่งถึงร้อยละ 30-45 หรือประมาณ 24 ล้านคนที่มียีนผิดปกติ เมื่อพาหะแต่งงานกันและเป็นพาหะที่เป็นพวกเดียวกันอาจมีลูกเป็นโรคได้ ทำให้ในประเทศไทยมีคนเป็นโรคธาลัสซีเมียมากถึงร้อยละ 1 หรือประมาณ 6 แสนคน

โดยที่ผ่านมามีการรณรงค์ในเรื่องการตรวจเลือดก่อนแต่งงาน เพื่อลดความเสี่ยงโรคโลหิตจางพันธุกรรมธาลัสซีเมีย รวมทั้งมีการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั่วไปอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความตระหนักและสามารถกระตุ้นให้สังคมได้รับทราบความจริง เนื่องจากผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย จำเป็นต้องใช้เงินในการรักษาเดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 1-2 หมื่นบาท ซึ่งเป็นเงินที่ต้องจ่ายเฉพาะค่าเลือดและค่ายาขับเหล็กเท่านั้น ยังไม่รวมถึงค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ ที่จะต้องเพิ่มมากขึ้น


โรคโลหิตจางธาลัสซีเมียเป็นโรคซีดชนิดหนึ่งที่เป็นกันในครอบครัว หรือเรียกว่าโรคพันธุกรรม มีการสร้างสารฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นสารในเม็ดเลือดแดงที่มีหน้าที่นำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายลดน้อยลง เม็ดเลือดแดงจะมีลักษณะผิดปกติและแตกง่าย ก่อให้เกิดอาการซีด เลือดจางเรื้อรัง และมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา ซึ่งผู้ที่เป็นโรคนี้จะได้รับยีนที่ควบคุมการสร้างฮีโมโกลบินของเม็ดเลือดแดงผิดปกติมาจากทั้งพ่อและแม่

ดังนั้นก่อนที่คิดจะตั้งครรภ์ ต้องปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยทารกในครรภ์ตั้งแต่อายุครรภ์อ่อนไม่เกิน 20 สัปดาห์ ด้วยการเจาะน้ำคร่ำ หรือการตัดชิ้นเนื้อส่วนเล็กๆ จากรกมาวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ ต้องทำโดยสูตินรีแพทย์ที่มีความชำนาญเป็นพิเศษ ถ้าตรวจพบทารกในครรภ์เป็นโรค คู่สมรสต้องรับคำปรึกษาทางพันธุกรรมอย่างต่อเนื่อง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook