คสช.กำชับทุกส่วนสนับสนุนสร้างความปรองดอง

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ เผย คสช. มองภาพรวมประเทศสงบเรียบร้อย กำชับทุกส่วนติดตามความคืบหน้าการทำงานสร้างความปรองดอง เตรียมรับมือภัยแล้ง ป้องกันสาธารณภัย เร่งแก้ปัญหารถตู้รองรับสงกรานต์

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก และรองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองเลขาธิการ คสช. ได้เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. โดยได้กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีบรรยากาศแห่งความสงบสุข ประชาชนได้รับทราบเรื่องราวอันเป็นมหามงคลที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 20 นำมาซึ่งความปีติยินดีของพุทธศาสนิกชน อีกทั้งในสัปดาห์นี้ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ป.ย.ป. ได้มีการขับเคลื่อนงานด้านการสร้างความสามัคคีปรองดองในส่วนของการรับฟังความคิดเห็นจากพรรคการเมือง ซึ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมของประเทศมีความสงบเรียบร้อย พร้อมกำชับให้ทุกส่วนงานได้ติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานของคณะกรรมการสามัคคีปรองดอง รวมทั้งหากได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะอนุกรรมการในส่วนต่าง ๆ ให้เตรียมความพร้อมและศึกษาตามแนวทางขับเคลื่อนของคณะกรรมการ ป.ย.ป. เพื่อให้งานสร้างความสามัคคีและปรองดอง ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสำคัญได้มีความคืบหน้าตามเป้าหมาย

พล.อ.พิสิทธิ์ ยังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องซักซ้อมการบรรเทาสาธารณภัย การเร่งสร้างความเข้าใจในผลกระทบหากเกิดไฟป่าและหมอกควัน ด้วยการชี้แจงและขอความร่วมมือจากประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือที่มีอัตราเสี่ยงในการเกิดปัญหาไฟป่าและหมอกควันสูง ให้กองทัพภาค 3 เร่งดำเนินการ 

พร้อมกันนี้ ยังกล่าวถึงเรื่องการบริหารจัดการน้ำ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งที่คาดว่าจะเกิดเร็วขึ้น โดยให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเตรียมพื้นที่กักเก็บน้ำ เร่งรัดโครงการขุดลอกแหล่งน้ำให้เสร็จตามแผนงาน 

นอกจากนี้ ได้ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย เร่งประสานงาน กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ เรื่องการแก้ปัญหารถสาธารณะ โดยเฉพาะรถตู้ เพื่อดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัย และการบริการตามที่ได้วางแผนไว้ให้เสร็จเรียบร้อย เตรียมรองรับเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึง

พร้อมกันนี้ รองเลขาฯ คสช. ยังได้กำชับ ให้แต่ละหน่วย ทำความเข้าใจ สื่อสารกับประชาชนถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานของภาครัฐ โครงการใหม่ ๆ ที่ประชาชนและชุมชนจะได้รับประโยชน์ เพื่อให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อให้เกิดการรับรู้และความเข้าใจ รวมทั้งการมีส่วนร่วมตามความเหมาะสมต่อไป