รมว.พม.กำชับช่วยเหลือชายวัย20ปีตาบอดสนิท

รมว.พม. กำชับช่วยเหลือ ชายวัย 20 ปี ที่ตาสองข้างบอดสนิทจากโรคมะเร็งที่ลูกตา ที่ จ. สงขลา - กำชับช่วยเหลือหญิงพิการขาด้วน วัย 40 ปี ต้องร้อยมาลัยขายเพื่อเลี้ยงดูลูก 2 คน และสามีที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวว่า จากกรณี ชายหนุ่มวัย 20 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ลูกตา ระยะที่ 3 มีก้อนเนื้อขนาดใหญ่ ออกมาจากลูกตา ทั้ง 2 ข้าง ทำให้ตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง สร้างความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างมาก อาศัยอยู่กับพ่อ แม่ พี่ชาย และน้องสาว ครอบครัวมีฐานะยากจน จึงไม่มีเงินค่ารักษาพยาบาล ที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา (พมจ.สงขลา) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เร่งลงพื้นที่เยี่ยมชายดังกล่าวพร้อมครอบครัว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่อง การตรวจร่างกายและรักษาพยาบาลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง และการให้คำแนะนำครอบครัวเรื่องการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เหมาะสมต่อไป

 

พม.ช่วยหญิงพิการขาด้วนขายมาลัยเลี้ยงลูกและสามีป่วย

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวว่า จากกรณี หญิงวัย 40 ปี พิการขาด้วน มีอาชีพร้อยมาลัยขาย ต้องรับภาระเพียงลำพัง เลี้ยงดูสมาชิกครอบครัว 4 ชีวิต ทั้งสามีวัย 40 ปี ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ร่างกายซูบผอม ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และลูกชาย-หญิง อีก 2 คน วัย 6 ขวบ และ 12 ปี ครอบครัวมีฐานะจน ที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ (พมจ.สมุทรปราการ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และอุปกรณ์การเรียน รวมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลด้านการส่งเสริมสวัสดิการสังคมที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว อาทิ การตรวจร่างกายและรักษาพยาบาลผู้ป่วย การศึกษาเล่าเรียนของเด็กอย่างต่อเนื่อง และการให้คำแนะนำในการส่งเสริมการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง เป็นต้น อีกทั้งมีการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมครอบครัวดังกล่าวเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง