“เบนซ์ เรซซิ่ง” ยืนยัน..บริสุทธิ์!

“เบนซ์ เรซซิ่ง” ยืนยัน..บริสุทธิ์!

“เบนซ์ เรซซิ่ง” ยืนยัน..บริสุทธิ์!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(16 ก.พ.) เมื่อเวลา 18.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง สามี "แพท" ณปภา ตันตระกูล นักเเสดงสาว เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)เพื่อนำข้อมูล และหลักฐานเกี่ยวกับการครอบครองรถยนต์เเลมโบร์กินี สีเทา ทะเบียน กจ 51 กรุงเทพมหานคร และที่มาของทรัพย์สินอื่นๆ มาทำการชี้แจง โดยนายอัครกิตติ์ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจนานกว่า 3 ชั่วโมง

เเละเมื่อเสร็จสิ้นการให้ข้อมูลเสร็จเเล้วนั้น นายอัครกิตติ์กล่าวว่า วันนี้ที่มาพบเจ้าหน้าที่ ไม่ได้มีหมายเรียกตนแต่อย่างใด เพียงแต่เดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ และนำเอกสาร26รายการมามอบให้เจ้าหน้าที่เพิ่มเติม อาทิ เอกสารการกู้ยืมเงินจากไฟแนนซ์ เอกสารเเสดงที่มาที่ไปของรถเเลมโบร์กินี สำหรับเรื่องเงิน 6 ล้านบาทนั้น ตนได้ให้ข้อมูลชี้แจงกับเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้วเเละต้องรอสรุปอีกครั้ง

ส่วนกรณีที่มีการเสนอข่าวว่าร้าน Area 51 ของตนขาดทุนมา 3 ปีเเละไม่น่าจะมีเงินจำนวนมากในการซื้อยานยนต์นั้น ขอให้รอข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า ยืนยันว่าตนไม่ได้นำเงินของนายไซซะนะ เเก้วพิมพา เเกนนำขบวนการค้ายาเสพติดมาใช้ในการซื้อรถเเลมโบร์กินี

"เงินที่นำมาซื้อมาจากการประกอบกิจการของผม สำหรับการเข้าให้ปากคำในวันนี้ค่อนข้างจะชัดเจนขึ้น เพราะได้มีการนำเอกสารสำคัญมาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ" นายอัครกิตติ์กล่าว ส่วนกรณีที่ผู้เกี่ยวข้องบางคนเข้าให้ปากคำและซัดทอดมายังตนว่า ตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายไซซะนะนั้น ตนไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ได้นำหลักฐานมาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นยังไม่มีการออกหมายเรียกใดๆ พร้อมทั้งไม่มีการแจ้งข้อหา และหากมีหลักฐานเพิ่มเติมจะนำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พ.ต.อ.สมเกียรติ วรรณสิริวิไล โฆษ กบก.ปส. เปิดเผยว่า วันนี้นายอัครกิตติ์มาพบพนักงานสอบสวน เเละให้การเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยนำเอกสาร 26 ชุด จำนวน 150 หน้า มามอบให้เป็นหลักฐาน ซึ่งเป็นเอกสารเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในเรื่องของธุรกิจ รายได้เสริมที่ประกอบธุรกิจ ไปจนถึงรายการต่างๆ เช่น การสั่งซื้อสินค้า เอกสารสัญญาต่างๆ เกี่ยวกับการโอนหรือซื้อขายรถยนต์ ซึ่งพนักงานสอบสวนรวบรวมไว้เพื่อเป็นหลักฐานเเละชั่งน้ำหนักประกอบคำให้การ

"แต่ตอนนี้รอธุรกรรมการเงินจากธนาคารต่างๆ เพื่อมาสรุปความสัมพันธ์ในแต่ละส่วน และให้คณะพนักงานสอบสวนตัดสินใจอีกครั้งในสัปดาห์หน้า สำหรับเอกสารที่นายอัครกิตติ์นำมามอบในวันนี้ ถึงแม้ว่านายอัครกิตติ์จะบอกว่าเคลียร์ทุกประเด็นชัดเจนแล้ว แต่ตำรวจก็ต้องตรวจสอบว่าสัมพันธ์ต่างๆ นั้น สอดคล้องตรงกับคำให้การหรือไม่"

พ.ต.อ.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่มีข้อสงสัยว่ารายได้นายอัครกิตติ์ไม่น่าจะมีจำนวนมากเพียงพอที่จะซื้อยานยนต์จำนวนมากเเละมีราคาเเพงได้นั้น ตำรวจยังไม่ได้ลงลึกถึงขั้นว่า นายอัครกิตติ์มีกำไรหรือขาดทุนในธุรกิจเท่าใด ตนจึงขออนุญาตให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า รายละเอียดการให้ข้อมูลในส่วนใดบ้างของนายอัครกิตติ์ที่ไม่ตรงกับข้อมูลที่ชุดสืบสวนมี เนื่องจากต้องกลับไปตรวจสอบเอกสารกว่า 150 หน้าให้ครบถ้วนเสียก่อน เพราะนายอัครกิตติ์อ้างว่าไปกู้เงินไฟแนนซ์มา ซึ่งไฟแนนซ์ไปกู้ธนาคารมาอีกต่อหนึ่ง โดยต้องไปดูว่ากู้ไปทำอะไร ใช้ส่วนไหน ส่งให้ใคร

"แต่เบื้องต้นทราบว่านายอัครกิตติ์นำเอกสารที่กู้จากไฟแนนซ์มาให้แล้ว แต่เอกสารที่ไฟแนนซ์ไปกู้จากธนาคารอีกต่อหนึ่งนั้น ตำรวจจะต้องเป็นผู้ติดตามขอข้อมูลจากธนาคารเอง ในส่วนของกรณีก่อนหน้านี้ มีรถคันอื่นๆ ที่นายอัครกิตติ์กู้ไฟเเนนซ์หรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ เเละในส่วนอื่นๆ ที่เป็นความเห็นทางคดีนั้น ผมไม่สามารถตอบได้ รวมทั้งสำนวนคดีนั้น เหลืออยู่ในเรื่องธุรกรรมทางการเงินที่รอจากธนาคารและด้านความสัมพันธ์ทางการเงินต่างๆ ที่ชี้วัดว่าเกี่ยวพันกันอย่างไรกับนายณัฐพล นาคคำหรือบอยที่ถูกจับกุมไปแล้ว"

"สาเหตุที่ทำให้การส่งข้อมูลทางธุรกรรมของนายอัครกิตติ์มายังพนักงานสอบสวนล่าช้านั้น เป็นเพราะนายอัครกิตติ์มีหลายบัญชี ซึ่งหากหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะเชิญมาให้ปากคำ แต่ยืนยันว่าขณะนี้นายอัครกิตติ์ยังไม่ใช่ผู้ต้องหา จึงมีสิทธิที่จะยื่นเอกสารให้กับพนักงานสอบสวนได้เสมอ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังรับเอกสารในส่วนธุรกิจ รวมไปถึงสัญญา ซื้อขาย กู้ยืม ทุกอย่าง เป็นส่วนสำคัญในการประกอบสำนวน หลังจากนี้อาจจะต้องเชิญนายอัครกิตติ์มาพบอีก เนื่องจากมีทรัพย์ส่วนหนึ่งที่โดนอายัดไว้ เป็นส่วนของ ป.ป.ส."

"สำหรับยุทธการครั้งต่อไปนั้น ไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากต้องรอการรวบรวมข้อมูลและรายละเอียด หากพร้อมหรือพบผู้กระทำความผิดก็จะดำเนินการทันที"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook