แชร์ว่อน! หนังสือหัวหน้าอุทยานเกาะพีพี ขอย้ายตัวเอง

กลุ่มชาวเรือนำเที่ยวทั้งเรือหางยาว และเรือสปีดโบ๊ทจำนวนหลายร้อยลำ ในพื้นที่ตำบลอ่าวนาง อ.เมืองกระบี่จำนวนหลายร้อยคน ได้นำเรือหางยาวหรือเรือหัวโทง เรือนำเที่ยวไปปิดบริเวณปากคลองแห้งทางเข้าท่าเรืออุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ห้ามเรือทุกชนิดเข้าออก เรียกร้องให้ทางอุทยานฯ ลดค่าธรรมเนียมการเข้าอุทยานจากปกติชาวต่างชาติ 400 บาท เหลือ 200 บาท และเด็กต่างชาติ 200 เหลือ 100 บาท ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นปพ. และอุทยานรวมกว่า 300 นายคอยดูแลความปลอดภัยอยู่ทั่วบริเวณที่ทำการ

ต่อมาตัวแทนชาวเรือได้ขึ้นไปประชุมร่วมกับทางนายณัฐพล รัตนพันธ์ ผอ.ส่วนจัดการอุทยานแห่งชาติทางทะเล กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง หลังจากที่ประชุมกว่า 2 ชม. ทางตัวแทนได้ลงมาแจ้งให้ทางผู้ชุมนุมทราบว่า ที่ประชุม ได้ข้อสรุปคือการเสนอข้อเรียกร้องไปยังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทำการพิจารณาว่าจะปรับลดลงได้หรือไม่ โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 20 วัน และขอให้ผู้ชุมนุมสลายตัวเพื่อไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยว ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงพอใจยอมสลายตัว และนำเรือที่จอดขวางคลองแห้ง ออกจากพื้นที่แล้ว

ในเวลาต่อมาได้มีการแชร์หนังสือระบุ นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขอย้ายตัวเอง โดยระบุว่า ได้มารับตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.58 จนถึงปัจจุบัน 1 ปี 7 เดือน 28 วัน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ร่างกายทรุดโทรม มีปัญหาสุขภาพบ่อยครั้ง จึงขอไปปฏิบัติหน้าที่ยังหน่วยงานอื่น ตามการพิจารณาเห็นสมควร

จากการสอบถามกับนายศรายุทธถึงสาเหตุได้ระบุว่า เกิดความเครียดจากการทำงาน และปัญหาสุขภาพ ประกอบกับที่ผ่านมาก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่มาโดยตลอด มาบุกเบิกการจัดเก็บรายได้เข้าอุทยานจนทำให้มีเงินเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ไม่ถึงร้อยล้านบาทต่อปี เป็น 500 กว่าล้านในปีที่ผ่านมา และปีงบประมาณนี้กว่า 200 ล้านบาทแล้ว และยังได้จัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวให้สวยงาม ฟื้นฟู อนุรักษ์ปะการังมาต่อเนื่อง รวมทั้งยังได้ยึดคืนพื้นที่กลับมาที่ค้างเก่าได้จำนวนมาก เห็นว่าถึงเวลาที่จะให้ผู้อื่นมาทำหน้าที่แทนแล้ว ส่วนการที่วันนี้มีกลุ่มมวลชนชาวเรือมาประท้วงนั้นก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยกันมาตลอดถึงการจัดระเบียบ การจัดเก็บรายได้ ซึ่งทุกคนเข้าใจ เพราะไม่ได้เก็บจากชาวเรือ แต่เก็บจากชาวต่างชาติที่มาเที่ยว