ศิษย์วัดพระธรรมกายประชิดแนวตร.ฝากส่งอาหารเข้าวัด-DSIเจรจา

ศิษย์วัดพระธรรมกายประชิดแนวตร.ฝากส่งอาหารเข้าวัด-DSIเจรจา

ศิษย์วัดพระธรรมกายประชิดแนวตร.ฝากส่งอาหารเข้าวัด-DSIเจรจา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลุ่มอารยะ 072 แถลงต่อต้าน ม.44 รับมีแกนนำเสื้อแดง-เหลืองเข้ามาในพื้นที่ ก่อนเดินขบวนประชิดแนว ตร.ฝากอาหารส่งให้คนในวัด DSI เข้าเจรจานำเสบียงส่งไปในวัดเอง ยืนยันไม่สามารถให้พระและศิษย์เข้าไปได้

นายอัยย์ เพชรทอง ลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย แถลงข่าวร่วมกับกลุ่มลูกศิษย์ที่ปักหลักอยู่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง ตรงข้ามประตู 5 และ 6 ทางเข้าวัดพระธรรมกาย รวมถึงพระสงฆ์และสามเณรแสดงจุดยืนเรียกร้องรัฐบาลให้ยกเลิกการใช้ใช้มาตรา 44 กับวัดพระธรรมกายเนื่องจากส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ โดยใช้ชื่อกลุ่มว่าทีมอารยะ 072 และการเข้าควบคุมพื้นที่ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าต้องหยุดกิจการ และฝากถามถึงเจ้าหน้าที่ดีเอสไอถึงสาเหตุที่แท้จริงในการควบคุมพื้นที่วัดด้วย

ขณะเดียวกันได้ปฎิเสธกระแสข่าวที่มีบิดามารดามาตามหาบุตร ยืนยันเด็กที่บวชสามเณรไม่มีการหลอกลวงมีการสอบเรียนตามขั้นตอน และยอมรับอีกว่ามีบุคคลซึ่งเป็นทั้งแกนนำของฝ่ายเสื้อแดงและเหลือง เข้ามาในพื้นที่แต่เป็นการเข้ามาเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาเท่านั้น ส่วนห้องในอาคารวัดพระธรรมกายที่พบว่ามีการมอนิเตอร์ภาพจากกล้องวงจรปิด ก็เป็นห้องที่ใช้ในการควบคุมอาคารตามปกติ 

ด้านตัวแทนพระสงฆ์ ยืนยันว่าการใช้อารยะขัดขืนเป็นไปด้วยความสงบจนกว่าจะได้รับความเมตตาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยกเลิกการใช้มาตรา 44 และพระสงฆ์ จำนวน 5 รูป ที่ต่อสู้ด้วยการอดอาหารได้อดอาหารมานานกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว โดยมีพระสงฆ์บางรูปถอนตัวออกไปก็แสดงให้เห็นว่าไม่มีการว่าจ้างหรือชักจูงบุคคลใด

ภายหลังแถลงข่าวกลุ่มพระสงฆ์และลูกศิษย์ นำโดยสามเณร ได้ตั้งแถวขนอาหารชนิดต่างๆ ทั้งผักสด ผลไม้ อาหารแห้ง และน้ำดื่มเคลื่อนขบวน ลอดใต้สะพานมาประชิดแนวตำรวจที่ตรึงกำลังดูแลพื้นที่ทางเข้า-ออกประตู 5 และ 6 เพื่อนำอาหารไปถวายให้กับพระสงฆ์ รวมถึงนำไปให้ลูกศิษย์ที่อยู่ภายในวัดด้วย เนื่องจากขาดแคนอาหารและน้ำดื่ม แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตโดยใช้กำลังทหารร่วมตั้งแถวกั้นไว้

ทางด้าน พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าเจรจา กับนายอัยย์ เพชรทอง ตัวแทนลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย และพระสงฆ์ ที่นำอาหารมาบริเวณประตู 5 และ 6 วัดพระธรรมกาย โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่จะพิจารณาถึงจำนวนอาหารและความเหมาะสมก่อนนำอาหารดังกล่าวส่งต่อให้ภายในวัด


ด้าน พล.ต.ต. สมบัติ มิลินทจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ยืนยันว่าไม่สามารถอนุญาตให้พระสงฆ์และลูกศิษย์เข้าไปในวัดได้จึงต้องกั้นพื้นที่ และอำนาจทั้งหมดเป็นของดีเอสไอ 

จากนั้นสามเณรและพระสงฆ์จึงได้ฝากอาหารไว้ที่เจ้าหน้าที่พร้อมสวดมนต์ให้พรตำรวจและทหาร ก่อนเดินทางกลับไปปักหลักที่ตลาดกลางคลองหลวงเช่นเดิม


ทางด้าน พระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ระบุ การใช้กำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าอาคารบุญรักษาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาควรเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ทหารมีหน้าที่เพียงรับผิดชอบในพื้นที่รอบนอกเท่านั้น และการปฏิบัติดังกล่าวถือว่าเป็นการสร้างความหวาดระแวงให้พระภิกษุและลูกศิษย์วัด จึงอยากขอให้ทางเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกไปด้านนอก 


ส่วนการเชิญ พระภิกษุ จำนวน 6 รูป และประชาชนอีกจำนวน 20 คน ไปควบคุมที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมทั้งหมดแล้ว ขณะที่ในพื้นที่ตลาดกลางคลองหลวงเบื้องต้นทราบว่ามี 3 กลุ่ม อยู่พื้นที่ โดยแบ่งเป็น กลุ่มที่อยากเข้าไปภายในวัด กลุ่มญาติของศิษยานุศิษย์ และกลุ่มชาวพุทธ ที่ต้องการปกป้องพระพุทธศาสนา นอกจากนี้ ยังมี 4 องค์กรสิทธิมนุษยชนต่างประเทศแสดงความห่วงใยสถานการณ์ในวัดพระธรรมกาย ขอสนับสนุนและยืนหยัดร่วมกับวัดพระธรรมกาย หากมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการใช้กำลังรุนแรงของเจ้าหน้าที่ ยืนยันที่ผ่านมาวัดพระธรรมกายเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเต็มที่ จึงอยากขอให้ทางเจ้าหน้าที่หยุดใช้ความรุนแรง 

อย่างไรก็ตาม พระสนิทวงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า กรณีที่ ทางคณะศิษยานุศิษย์และพระสงฆ์ที่พักอยู่บริเวณตลาดกลางคลองหลวงพยายาม นำอาหารวัสดุ ประกอบอาหาร เข้ามาภายในวัด ล่าสุดทางพระมหานพพร ได้ทำการพูดคุยกับ พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมพิเศษ หรือดีเอสไอ ในเรื่องการนำวัสดุประกอบอาหารเข้ามาในพื้นที่เรียบร้อยแล้วพร้อมย้ำให้รัฐบาลยกเลิกมาตรา 44 ในการควบคุมวัดพระธรรมกาย เพื่อความสงบสุขของประเทศ


DSIแถลงแนวทางใช้ม.44ไม่ละเมิดสิทธิปชช.

พันตำรวจเอกทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงถึงปฏิบัติการตรวจค้นในพื้นที่วัดพระธรรมกาย บริเวณประตู 1 เมื่อช่วงเช้านี้ เนื่องจากทราบข่าวว่ามีบุคคล วีไอพี ที่ต้องการตัวหลบซ่อนอยู่ใกล้จุดอาคารก่อสร้างโรงพยาบาล แต่เมื่อตรวจค้นไม่พบตัวกลับพบพระสงฆ์จำนวน 6 รูป และกลุ่มบุคคลอีก 22 คน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบสวนทำประวัติและส่งตัวกลับภูมิลำเนา 

ทั้งนี้ ดีเอสไอ ได้มีการยกระดับเพิ่มกำลังดูแลพื้นที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย หลังมีการข่าวว่าอาจมีกลุ่มบุคคลเข้ามาก่อเหตุความวุ่นวาย โดยขอทำความเข้าใจกับประชาชนที่ชุมนุมบริเวณหน้าตลาดคลองหลวงและพื้นที่รอบวัดพระธรรมกาย เพื่อต้านการประกาศใช้มาตรา 44 ว่าเจ้าหน้ายืนยัน การใช้ มาตรา 44 แม้จะมีอำนาจสูงสุด แต่การปฏิบัตินั้นใช้เพียงบางส่วนเพื่อไม่ให้ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และมองว่าแม้ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จะใช้กฎหมายปกติ แต่ทางมวลชนก็ยังต่อต้าน จึงฝากไปยังผู้ชุมนุมว่าพื้นที่ทั้งหมดเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ซึ่งหากฝ่าฝืนร่วมชุมนุมจะมีความผิดตามกฎหมาย




แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook