เป้ยโล่งเชื้อมะเร็งหายหลังตรวจพบ2ปีก่อน

เป้ยโล่งเชื้อมะเร็งหายหลังตรวจพบ2ปีก่อน

เป้ยโล่งเชื้อมะเร็งหายหลังตรวจพบ2ปีก่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาว 'เป้ย ปานวาด' โล่งเชื้อมะเร็งหาย หลังตรวจพบเมื่อ 2 ปีก่อน ให้กำลังใจ 'หนิง' ยังไม่สำเร็จมีลูกคน2

ก่อนหน้านี้เคยยอมรับงาาเครียดหลังจากพบว่ามีเชื้อที่อาจจะกลายเป็นมะเร็งได้ เมื่อ 2 ปีก่อน สำหรับสาว เป้ย - ปานวาด แต่ล่าสุดเจ้าตัวก็เปิดเผยว่าตอนนี้เชื้อมะเร็งนั้นหายไปแล้ว แต่ก็ยังคงต้องดูแลตัวเองตามที่แพทย์สั่ง พร้อทเผยให้กำลังใจพี่สาวคนสนิทหนิง - ปณิตา หลังผิดหวังจากการมีลูกคนที่ 2 เพราะร่างกายไม่แข็งแรง
 


เห็นในไอจีน้องโปรดไม่สบายเป็นยังไงบ้าง?

"ก็เป็นไข้หวัดปกติ คือเวลาไปโรงเรียนเราต้องทำใจไว้อยู่แล้วว่าจะต้องพบเจอเชื้อโรคหรือว่าอะไรต่างๆมากมาย คือไม่ว่าเราไปที่ไหนนอกจากโรงเรียน มันก็เป็นธรรมดา สิ่งสำคัญก็คือต้องให้ลูกออกกำลังกายเยอะๆ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกเยอะๆเท่านั้นเอง ไม่ถึงกับนอน รพ.ค่ะ เราเป็นบ่อยจนเรารู้แล้วว่าต้องให้ยาแบบไหน แรกๆเราก็นอยด์ที่ลูกป่วย ว่าจะต้องทำยังไง แต่ตอนนี้ 4 ขวบแล้วเริ่มประสบการณ์เริ่มเยอะป่วยบ่อย สิ่งสำคัญก็คือตัวเขาจะต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองมากๆ เขาต้องเล่นกีฬาเยอะๆจะได้แข็งแรง กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ"


เวลาเขาป่วยเขางอแงไหม?

"ไม่งอแงค่ะ ซนเหมือนเดิม ถ้าเกิดเขาซึมต้องไปหาหมอ แต่อันนี้ซ่าดีเหมือนเดิม เหมือนไข้หวัดธรรมดาค่ะ เป้ยพยายามจะพาเขาไปออกกำลังกายทุกเย็นให้เป็นเรื่องปกติ ไปปั่นจักรยาน (มีแววนักกีฬาไหม?) น่าจะเป็นสายลุยๆ แต่เป็นคุณชาตที่ลุยๆนะ สกปรกมากก็โวยวายอีก แต่เป้ยชอบให้เขาเลอะอยู่แล้ว"


พัฒนาการเป็นยังไงบ้าง?

"ก็โอเคค่ะ เป็นคุณชาย จะเจ้าระเบียบกว่าแม่แล้ว เป็นเด็กที่มีระบบความคิดเป็นตัวของตัวเองมาก จะไปปรับเปลี่ยนอะไรก็ต้องมีเหตุผลไปต่อรองกับเขา ต้องมีเหตุผลที่ดีด้วยไม่งั้นเขาก็เถียงเรา ที่โรงเรียนเขาก็แฮปปี้ค่ะ ตอนนี้โรงเรียนปิดเทอมก็ถามตลอดว่าทำไมต้องปิด เห็นคุณครูบอกว่าเหมือนน้องจะมีความสามารถในด้านตีกลองอาจจะต้องสนับสนุนด้านนี้ ตอนนี้ก็หาที่เรียนตีกลองอยู่ค่ะ"


เห็นก่อนหน้านี้เราไม่สบาย?

"ก่อนหน้านี้ไม่สบายก็พร้อมๆคุณหนิง(ปณิตา)เนี่ยแหละค่ะ ติดกันไปติดกันมา"


ได้ไปตรวจไหม เพราะเห็นมีข่าวเรื่องมะเร็งออกมา?

"2 ปีที่แล้วเราทราบว่ามีเชื้อที่สามารถแปลเป็นมะเร็งได้ ก็ในระหว่าง 2 ปีที่เราทราบมาก็พยายามทำร่างกายตามที่คุณหมอบอก คือตัวเชื้อมันไม่ได้แข็งแรงมากนัก สามารถหายได้เอง ถ้าเกิดปฎิบัติตามที่คุณหมอบอก ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน ทานอาหาร ออกกำลังกาย ที่สำคัญคือห้ามเครียด ซึ่งล่าลุดผลก็ออกมาว่าไม่มีแล้ว เชื้อนั้นหายไป เราก็รู้สึกดีใจ คือในระยะ 2 ปี เราเครียดมาก ไม่อยากเป็น อยากอยู่กับลูกนานๆ ก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ให้หายเร็วที่สุด"



เสี่ยงที่เชื้อจะกลับมาอีกไหม?

"มันเป็นธรรมดาที่สามารถจะกลับมาได้อีก มันก็อยู่ที่ตัวเรา จุดเริ่มต้นที่เรารู้เลยคือไปสุขภาพปกติค่ะ แล้วก็เจอ แนะนำว่าให้ทุกๆคนไปตรวจสุขภาพนะคะ นี่ยังดีที่เป้ยรู้ตอนเริ่ม ตอนแรกเรานอยด์ ร้องไห้ เพราะไม่มีใครอยากเป็นโรคนี้ เพราะมันค่อนข้างจะน่ากลัว เราอยากอยู่กับลูกให้นานที่สุด เราก็เลยพยายามทำตามที่หมอบอก ไม่เครียด เจออะไรก็จะหัวเราะอย่างเดียว ไม่ทำให้เป็นปัญหา คิดแง่บวก ไม่ทำให้ตัวเองนอยด์ ร่างกายจะได้แข็งแรงให้เร็วที่สุด แล้วเชื้อนี้จะได้หายไปเร็วที่สุด ตอนนี้ก็ต้องฟอลโล่ทุก 6 เดือนค่ะ"


มีผลต่อการใช้ชีวิตไหม?

"มันอยู่ที่สุขภาพจิตเราเป็นสำคัญ สุขภาพร่างกายก็เกี่ยวด้วย เรื่องความสะอาดเวลาไปเข้าห้องน้ำสาธารณะก็มีส่วนสำคัญ เพราะเราเป็นที่ปากมดลูกค่ะ ก็ค่อนข้างจะอันตราย เรื่องอาหาร ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอก็เกี่ยว"


กระทบกับการมีลูกคนที่ 2 ไหม?

"จริงๆมันไม่เกี่ยวนะคะ ถ้าจะมีคงเป็นเรื่องเลือด เพราะเหมือนจะเป็นโลหิตจางนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา ทุกวันนี้ไปตรวจร่างกายคุณหมอก็บอกว่าโอเคมาก แข็งแรง ถามว่าพร้อมมีคนที่สองเลยไหมก็เดี๋ยวให้คุณหนิงท้องไปก่อน เดี๋ยวตามไป"


กับหนิงเราให้กำลังใจยังไงบ้าง?

"โทรมาร้องไห้เลยค่ะ ก็ให้กำลังใจเขาบอกว่าอย่าเครียด เพราะว่าต้องเข้าใจว่าหนิงเป็นลักษณะที่อยู่ไม่นิ่ง นั่งรถเข็นก็ต้องเข็น ยังจะลุกไปทำงาน เพราะเขาทำงานเยอะมาก ก็ให้กำลังใจว่าไม่เป็นไรเริ่มต้นใหม่ได้"



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook