วัดพระธรรมกายขอยกเลิกม.44โต้ขวางค้นอย่าตัดน้ำไฟ

วัดพระธรรมกายขอยกเลิกม.44โต้ขวางค้นอย่าตัดน้ำไฟ

วัดพระธรรมกายขอยกเลิกม.44โต้ขวางค้นอย่าตัดน้ำไฟ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พระสนิทวงศ์ วอนอย่าตัดน้ำตัดไฟวัด ขอบคุณทหาร ตำรวจ ให้นำถวายอาหาร ย้ำ วัดไม่ใช่คู่ขัดแย้งส่งผลสร้างความปรองดอง ขอยกเลิก ม.44

พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนบริเวณประตู 5 ทางเข้าวัดพระธรรมกาย ว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ที่เมื่อวานนี้อนุญาตให้นำอาหารบางส่วนเข้ามาภายในวัด แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ในวันนี้จึงขออนุญาตให้ลูกศิษย์นำอาหารมาถวายพระสงฆ์ด้วยการทอดผ้าป่าตามหลักพระพุทธศาสนาด้วย และขอร้องเจ้าหน้าที่อย่าตัดน้ำตัดไฟภายในวัด 

ขณะที่บรรยากาศวันนี้ แม้จะไม่มีการบุกเข้ามาด้านใน แต่พบว่ามีการกระชับพื้นที่ตลอดเวลาโดยเฉพาะบริเวณทางเข้าอาคารบุญรักษา ลูกศิษย์จึงมีความห่วงใยกับพื้นที่ดังกล่าว และทางวัดไม่ได้ขัดขืนเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าตรวจค้นด้านในเนื่องจากที่ผ่านมามีการเข้าค้นถึง 3 ครั้ง แต่ไม่พบบุคคลตามเป้าหมาย และไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และไม่ได้ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่เจ้าหน้าที่ต่างหากที่ผิดข้อตกลง เนื่องจากตรวจค้นไม่พบ แต่ไม่ยอมถอนกำลังกลับไป

พระสนิทวงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีสังคมออนไลน์มีการโพสต์ภาพตัวเอง มีข้อความและภาพระบุว่าอยากกระทืบตัวเอง โดยได้ขอโทษไปยังบุคคล หากการชี้แจงของตัวเองทำให้ไม่พอใจ โดยขอให้ไปสวดมนต์เพื่อจิตใจสงบ และไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งกันในสังคม ถึงแม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันก็ตาม โดยยืนยันว่า วัดพระธรรมกาย ไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับรัฐบาลและไม่ต้องการส่งผลกระทบบรรยากาศการสร้างความปรองดอง

พระสนิทวงศ์ ยืนยันว่า มูลนิธิวัดพระธรรมกาย ไม่มีการซื้อที่ดิน บุกรุก หรือครอบครองพื้นที่ป่าชายเลนตามที่หน่วยฉลามขาวร่วมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจพื้นที่จังหวัดกระบี่แต่อย่างใด


ดีเอสไอรอประเมินสถานการณ์จะเข้าค้นวัดพระธรรมกายอีกหรือไม่

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ บอกถึงแนวทางปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อเข้าจับกุมพระธัมมชโย ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินและรับของโจรสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ว่า การปฏิบัติวันนี้อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ว่าจะเข้าค้นอีกหรือไม่ โดยเฉพาะโซนเอและโซนบี ที่ยังไม่สามารถตอบสงสัยให้กับสังคมได้ 

ขณะที่การรวมตัวของเครือข่ายวัดพระธรรมกายที่ตลาดกลางคลองหลวง รองอธิบดีดีเอสไอ ยืนยันว่า เป็นพื้นที่ควบคุม ตามคำสั่ง คสช. ม.44 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานไว้ดำเนินการตามกฎหมายย้อนหลังกับผู้ที่ฝ่าฝืนแล้ว พร้อมฝากย้ำไปยังประชาชนที่จะนำอาหารมาถวายเพลหรือส่งให้บุคคลภายในวัด ให้นำมารวบรวมไว้ที่ประตู 7 เท่านั้น เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้คัดกรอง ไม่ให้บุคคลที่ไม่หวังดีเข้ามาอาศัยจังหวะก่อเหตุ 

ส่วนความคืบหน้าการออกหมายเรียก พระธัมมชโย กับพระลูกวัด รวม 14 รูป ขณะนี้มี พระมหานพพร ปุญญชโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ได้เข้ารายงานตัวแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวกลับไป ส่วน พระเเสนพล  ได้ติดติดต่อจะเข้ามารายงานตัวแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฐานผิดคำสั่งเจ้าพนักงาน ส่วนพระที่เหลือ อีก 11 รูป อยู่ระหว่างพิจารณาออกหมายจับ


แอมเนสตี้ปัดสนับสนุนวัดพระธรรมกายแค่จับตามองใกล้ชิด

นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ชี้แจงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวระบุว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ให้การสนับสนุนและยืนหยัดร่วมกับวัดพระธรรมกาย พร้อมทั้งออกแถลงการณ์ร่วมกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนนั้น เป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน แอมเนสตี้ได้รับการติดต่อทางอีเมล์จากฝ่ายสำนักสื่อสารองค์กร ของวัดพระธรรมกายจริง และได้ตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ โดยระบุว่าทางแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลตระหนักและกำลังจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้แจ้งข้อมูลว่าทางศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชนได้ออกแถลงการณ์ในเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งส่งลิงก์แถลงการณ์ดังกล่าวไป

ดังนั้น ทางองค์กรฯ ขอชี้แจงว่าแถลงการณ์ที่ทาง พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกายกล่าวถึง เป็นแถลงการณ์จากศูนย์ทนายเท่านั้น ไม่ได้เป็นแถลงการณ์ร่วมกับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย แต่อย่างใด


พระและศิษย์วัดพระธรรมกายยืนยันปักหลักตลาดกลางคลองหลวง

นายอัยย์ เพชรทอง ตัวแทนกลุ่มคณะศิษย์ของวัดพระธรรมกาย แถลงท่าทีของวัดว่าได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ โดยระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ผ่อนปรนการเข้า - ออก บริเวณตลาดกลาง โดยไม่ต้องมีการตรวจบัตรประจำตัวประชาชน แต่การเข้า - ออกของศิษย์และพระแต่ละครั้ง จะมีตำรวจตรวจตราด้วยกันเพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีแฝงตัวเข้าไป ส่วนอาหารที่ได้รับจากการทำบุญตักบาตรและบริจาคนั้น อนุญาตให้นำไปมอบที่ประตู 7 เท่านั้น โดยจะมีการพิจารณาตรวจสอบจากดีเอสไอ จากนั้นทีมพระสงฆ์จากด้านในจะออกมารับ โดยจะไม่มีการเคลื่อนขบวนแต่จะปักหลักตลาดกลางคลองหลวงจนกว่าจะมีการยกเลิกมาตรา 44 

ทั้งนี้ ทางทหารได้ขอความร่วมมือศิษย์ของวัดงดปิดบังใบหน้าเวลาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ส่วนกรณีสื่อบางสำนักเข้าใจผิดเรื่องตู้คอนเทรนเนอร์ขนาดใหญ่ในวัดมีสิ่งของผิดกฎหมายนั้น ย้ำว่าตู้เคอนเทรนเนอร์ดังกล่าว ทางวัดมีไว้สำหรับใส่เครื่องอัตถบริขาร ที่ประชาชนทำบุญมาเพราะต้องเก็บอย่างดี ยืนยันไม่มีของผิดกฎหมายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ยังได้ฝากคำถามถึง สนช. เกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.สงฆ์ฯ โดยห้ามไม่ให้พระสงฆ์มีทรัพย์สมบัตินั้นข้อนี้ เห็นว่าหากประชาชนต้องการถวายเป็นการส่วนตัวจะทำอย่างไร ส่วนการตรวจค้นและออกหมายจับวัดพระธรรมกายบุกรุกที่นั้น หากเป็นเช่นนั้นวัดป่าที่อยู่ป่าและบนเขาซึ่งมีเป็นจำนวนมากนั้นจะมีความผิดด้วยหรือไม่ 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook