มท.ห่วงปชช.หวั่นพายุฤดูร้อนสร้างความเสียหาย

มท.ห่วงปชช.หวั่นพายุฤดูร้อนสร้างความเสียหาย

มท.ห่วงปชช.หวั่นพายุฤดูร้อนสร้างความเสียหาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กระทรวงมหาดไทยห่วงประชาชน หวั่นพายุฤดูร้อนสร้างความเสียหาย สั่งอปท.ตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของป้าย

นายชยพล ธิติศักดิ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เนื่องจากในขณะนี้เข้าสู่ช่วงฤดูร้อน มักจะเกิดพายุฤดูร้อนและพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำให้อาคารบ้านเรือน และป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่ก่อสร้างโดยฝ่าฝืนกฎหมายหรือที่มีสภาพชำรุดล้มลงมาสร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินไประชาชน ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น กระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการให้ทุกจังหวัดกำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ใน ตรวจสอบความปลอดภัยของป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ในพื้นที่รับผิดชอบและเข้มงวดในการพิจารณาอนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้นายชยพล ยังได้เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้หน่วยงานในท้องถิ่นตรวจสอบป้ายโฆษณาที่ความสูงจากระดับฐานตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่ตั้งแต่ 50 ตารางเมตรขึ้นไป และหากพบป้ายที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงซึ่งฝ่าฝืนกฎหมาย แต่ถ้าไม่สามารถแก้ไขได้ต้องสั่งให้รื้อถอนทันที ส่วนป้ายที่ได้รับอนุญาตแล้วแต่มีสภาพเก่า ชำรุด บกพร่องและไม่ปลอดภัย ต้องแจ้งเจ้าของป้ายดำเนินการแก้ไข หากไม่แก้ไขให้รื้อถอนป้ายดังกล่าวเช่นกัน สำหรับป้ายที่มีการติดตั้งบนพื้นดินที่มีความสูง 15 เมตรขึ้นไป ที่ติดตั้งบนหลังคาหรือดาดฟ้าขอวอาคารที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 25 ตารางเมตรขึ้นไป หากป้ายดังกล่าวได้ก่อสร้างมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี เจ้าของป้ายต้องจัดหาผู้ตรวจสอบที่ขึ้นทะเบียนกับคณะกรรมการควบคุมอาคารมาตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและระบบอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วต้องส่งรายงานผลการตรวจสอบให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นพิจารณาออกใบรับรองการตรวจสอบ

อย่างไรก็ตามนายชยพล ยังได้กล่าวถึงการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงระหว่างวันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ 2560 พบว่า บริเวณประเทศไทยจะมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส  ทางกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ร่วมกันแจ้งเตือนประชาชนให้ช่วยกันสอดส่องดูแลบ้านให้มีสภาพมั่นคงแข็งแรง รวมถึงต้นไม้บริเวณหรือวัสดุอุปกรณ์โดยรอบบ้านที่อาจหักโค่นลงมาทับบ้านเรือนได้รับความเสียหายได้ รวมทั้งตัดแต่งกิ่งไม้บริเวณริมถนนในชุมชน หากพบว่าตัวบ้านและบริเวณโดยรอบมีความเสี่ยงจะหักโค่นล้มทับลงมา ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตรวจสอบทันที

นอกจากนี้ยัง ให้จังหวัดกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้ประสานหน่วยงานทหารในพื้นที่ เครือข่ายอาสาสมัครทุกภาคส่วน พร้อมทั้งจัดชุดเฝ้าระวัง เจ้าหน้าที่เผชิญเหตุ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และทีมกู้ชีพกู้ภัยให้พร้อมเข้าให้การช่วยเหลือหากเกิดเหตุ ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook