แม่ดาราเด็กสุดเซ็ง! ถูกโทรด่าทั้งคืน ที่แท้ชื่อนามสกุลซ้ำกัน

แม่ดาราเด็กสุดเซ็ง! ถูกโทรด่าทั้งคืน ที่แท้ชื่อนามสกุลซ้ำกัน

แม่ดาราเด็กสุดเซ็ง! ถูกโทรด่าทั้งคืน ที่แท้ชื่อนามสกุลซ้ำกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางวราภรณ์  แจ่มใส อายุ 43 ปี ชาวตำบลศาลาแดง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง แม่ของดาราเด็ก "น้องออสก้า" สุดเซ็ง หลังมีคนที่ชื่อและนามสุกลเหมือนกับตนเอง ไปเปิดบัญชีซื้อขายของช่องทางออนไลน์ ผ่านโซเชียล แล้วมีปัญหาเบี้ยวกับลูกค้า ทำให้ตนเองต้องเดือดร้อนหนัก หลังผู้ที่อ้างว่าเสียหายหาเบอร์และไลน์ของตนเองเจอ แล้วโทรศัพท์มาด่าทั้งคืนติดต่อกัน

จึงได้ทำการมาแจ้งความต่อ ร.ต.ต.สุขสันต์  ปัสสาวะกัง รอง สารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง พร้อมวอนสื่อช่วยเผยแพร่ เพื่อป้องกันชื่อเสียง และเตือนผู้ชื้อของและขายของทางออนไลน์ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนที่จะสั่งชื้อสินค้า และย้ำว่าควรตรวจสอบให้ถูกต้องก่อน ว่าใช่คนๆ เดียวกับที่ซื้อขายสินค้ากันหรือไม่ ก่อนที่จะด่าว่ากล่าว ซึ่งตนเองไม่ได้มีส่วนรู้เห็น อาจจะทำให้ได้รับความเสียหาย ทั้งเสียชื่อเสียง ส่งผลขยายวงกว้างได้

นางวราภรณ์  เปิดเผยว่า ตนเองได้รับโทรศัพท์จากคนที่ไม่รู้จักกันโทรมากลางดึกถึง 5 สาย โดยโทรมาด่าและกล่าวหาว่าเป็นคนขี้โกง หลอกลวงให้โอนเงินค่าสินค้าที่สั่งทางเฟสบุ๊คแล้วไม่ยอมส่งสินค้าให้ ซึ่งตนเองแปลกใจ และตกใจเป็นอย่างมาก ที่ถูกด่าโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย  หลังจากนั้นตนเองได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอ่างทอง พร้อมได้ตรวจสอบ ผู้ที่ชื้อขายออนไลน์ ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า กาญจนา ศรีเดช โดยบอกให้ลูกค้าที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าว่าให้โอนเงินเข้าบัญชีนั้นมีชื่อว่า นางสาววราภรณ์ แจ่มใส บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาปราสาท จังหวัดสุรินทร์ โดยตนเองชื่อนั้นชื่อว่า นางวราภรณ์  แจ่มใส ใช้คำนำหน้าไม่เหมือนกัน หมายเลขบัญชี และจังหวัดก็ไม่เหมือนกัน อีกทั้งตรวจสอบดูแล้วก็ไม่พบว่ามีเงินเข้าในบัญชีชื่อนางวราภรณ์ แจ่มใส ของตนเองแต่อย่างใด

จึงอยากจะขอฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์สอนใจว่า อย่าไว้เนื้อเชื้อใจบุคคลที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน เพียงแต่รู้เห็นกันทางเฟซบุ๊กหรือโลกออนไลน์เท่านั้น ก็เชื่อใจโอนเงินให้กันเพื่อเป็นการสั่งซื้อสินค้า พอโดนหลอกแล้วก็จะมานึกเสียใจภายหลัง ควรสำรวจตรวจเช็คดูให้แน่นอนเสียก่อนว่ามีตัวตนจริงชื่อจริงนามสกุลจริง และมีหลักแหล่งซื้อขายสินค้าจริงเป็นที่แน่นอนแล้วจึงค่อยตัดสินใจทำการใดๆ ลงไป

และหากว่า มีปัญหาเรื่องถูกฉ้อโกงหรือหลอกลวงควรแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนเพื่อที่จะได้ตรวจสอบผู้กระทำความผิดแล้วดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ดีกว่ามาด่าว่าและโทรก่อกวนซึ่งคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตนเองนั้นได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก จากเรื่องการชื้อขายของออนไลน์ที่มีคนชื่อและนามสกุลเหมือนตนเองในขณะนี้   

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook