เปิดใจ 2 แม่ลูกพะเยา สุดซาบซึ้งใจ ฟ้าหญิงฯ ทรงรับอุปถัมภ์

สองแม่ลูกในพื้นที่อำเภอเชียงคำจังหวัดพะเยา ซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ หลังรับเป็นคนไข้ในพระบรมชนูปถัมภ์ รวมทั้งอุปถัมภ์ลูกชายวัย 12 ปี เป็นบุตรบุญธรรมในส่วนพระองค์ ล่าสุดทางอำเภอได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขณะที่ลูกชายขณะนี้ทางอำเภอประสานให้มีที่เรียนแล้ว

นางพะยอม วังเค็ม อายุ 49 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 11 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะเดินทางเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ด้วยโรคมะเร็งในลำไส้ ภายหลังเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ ทรงรับเป็นคนไข้ในพระชนูปถัมภ์ รวมทั้งอุปการะรับ เด็กชายธนกฤต อนุปิม อายุ 12 ขวบ เป็นบุตรบุญธรรม

สืบเนื่องจากพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินในพื้นที่อำเภอเชียงคำ เมื่อ 3 วันที่แล้ว นางพะยอม ระบุว่าป่วยเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ(มะเร็ง) และป่วยมากว่า 1 ปี ไม่รู้จะหาทางแก้ไขอย่างไร เนื่องจากตนเองอาศัยอยู่กับลูกชายวัย 12 ปี เพียงลำพัง เมื่อทราบว่าพระองค์ทรงเสด็จลงพื้นที่ จึงไปปรึกษาผู้ใหญ่บ้าน

โดยผู้ใหญ่บ้านแนะนำและไปปรึกษากับทางนายอำเภอเชียงคำ ทางอำเภอแนะให้ถวายฎีกาเกี่ยวกับความยากจนและโรคประจำตัว กระทั่งวันที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนิน ก็ได้ไปตรวจร่างกายกับแพทย์ พอ.สว. และรอเข้าเฝ้าเพื่อถวายฎีกา

ขณะรอเฝ้าพระองค์นั้น ทรงตรัสถามว่า ตนไม่สบายเป็นอะไร ตนก็บอกว่าขอความพระเมตตาให้พระองค์ช่วยเหลือบุตรชาย และช่วยเหลือให้รักษาโรคประจำตัวของตัวเอง ซึ่งหากตนเสียชีวิตลงลูกชายก็ไม่รู้จะอยู่กับใคร

จากนั้นพระองค์ททรงตรัสกับตนว่าจะช่วยเหลือในรักษาโรคให้ รวมทั้งรับลูกชายเป็นบุตรบุญธรรม ตนดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อันหาที่สุดมิได้ ทรงรับเป็นคนป่วยฯ และรับลูกของตนเป็นบุตรบุญธรรม ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ กับหน่วยงาน พอ.สว.พะเยา เพื่อไปรักษาโรคมะเร็งในลำใส้ใหญ่

นางพะยอม กล่าวอีกว่า คนแต่งงานกินอยู่กับ นายมนัส อนุปิม มีบุตรด้วย 1 คน ก็คือ ด.ช.ธนกฤต ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนปิยมิตร หลังจากเกิดลูกได้ 2 ปี สามีได้รับทำงานในกรุงเทพฯ ตอนแรก สามีส่งเงินมาให้ใช้เป็นประจำ แต่ก็ขาดการติดต่อสามีก็ไม่ได้ส่งเงินมาให้หลายปีแล้ว

ตนจึงต้องเลี้ยงลูกด้วยตัวเองมาตลอด ในส่วนประวัติทางครอบครัวพ่อแม่และพี่สาว ก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้ ส่วนน้องชายตายโรคระเร็งตับ ส่วนตัวเองก็เป็นมะเร็งในลำไส้ ต้องฉีดคีโมครบทุกเข็มแล้ว นับได้ว่าชีวิตของตนเองค่อนข้างจะอาภัพ

ทางด้าน ด.ช.ธนกฤต สัมภาษณ์ว่าขณะนี้เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนปิยมิตรเชียงคำ รู้สึกตื้นตันใจมากๆ แบบอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ พระองค์ทรงตรัสกับตนอย่างเป็นกันเอง โดยไม่ถือพระองค์ฯ หรือใช้คำราชาศัพท์ ส่วนที่พระองค์รับตนเป็นบุตรบุญธรรมนั้น ส่วนตัวตนขออยู่กับแม่ตลอดไป จนกว่าจะตายจากกันไป เพราะตนรักแม่ที่แม่ดูแลมาตั้งแต่เกิดถึงจำความได้

ด.ช.ธนกฤต ยังบอกอีกว่า ตนตั้งใจจะเรียนให้จบถึงระดับปริญญาตรี เพื่อเป็นอาชีพในอนาคต ส่วนการที่พระองค์ทรงรับเป็นบุตรบุญธรรม ตนก็ขอน้อมรับด้วยความปิติใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ ตนจะทำความดีถวายแผ่นดิน ทำความดีถวายพระองค์และราชวงศ์ทุกพระองค์

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้เข้าติดตามที่บ้านของนางพะยอม พบว่าบ้านได้ถูกปิดไว้ นางพะยอม ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปแล้ว โดยได้สอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียง ระบุว่า ขณะนี้นางพะยอม ได้เดินทางเข้ารับการรักษาแล้ว

ที่ผ่านมาทั้งสองแม่ลูกจะอาศัยอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง หลังจากที่นางพะยอมป่วย เด็กชายธนกฤติ ก็จะคอยดูแลตลอด และไม่ได้เที่ยวเหมือนกับเด็กทั่วไป และจะมีน้องอีกคนมาช่วยดูแลเป็นครั้งคราว ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่พระองค์ท่านให้การช่วยเหลือกับครอบครัวนี้

นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล นายอำเภอเชียงคำ ระบุว่า ขณะนี้ทางอำเภอได้ทำการส่งตัวนางพะยอม เข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์แล้ว ในส่วนของบุตรชายที่พระองค์ทรงรับเป็นบุตรบุญธรรม ขณะนี้ก็ได้ประสานที่เรียนให้กับเด็กได้แล้ว เพื่อในการที่จะเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1