สภากห.ผ่านแผนพัฒนาขีดความสามารถปฏิรูปกองทัพ

สภากห.ผ่านแผนพัฒนาขีดความสามารถปฏิรูปกองทัพ

สภากห.ผ่านแผนพัฒนาขีดความสามารถปฏิรูปกองทัพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สภากลาโหม เห็นชอบร่างแผนพัฒนาขีดความสามารถกระทรวงกลาโหม ปี พ.ศ. 2560 - 2569 ปฏิรูปกองทัพ - พล.อ.ประวิตร กำชับ กอ.รมน. - ผบ.เหล่าทัพ เร่งมือสร้างความต่อเนื่องดูแลความสงบภาคใต้

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 2/2560 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบร่างแผนพัฒนาขีดความสามารถกระทรวงกลาโหม ปี พ.ศ. 2560-2569 (10 ปี) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปกองทัพ เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างกำลังกองทัพ ให้มีความพร้อมด้านยุทโธปกรณ์ตามความจำเป็นเร่งด่วนในช่วง 10 ปี เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะคำนึงถึงการดำรงสภาพพร้อมรบ การขยายขีดความสามารถ และการเสริมสร้างความทันสมัย โดยแบ่งความต้องการเป็นระดับความต้องการสูงสุด ที่อ้างอิงกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ซึ่งสูงขึ้นทุกปี และระดับความต้องการต่ำสุด ภายใต้กรอบวงเงินขั้นต่ำสุดเท่าที่มีความจำเป็น

ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายแก่หัวหน้าหน่วยงานขึ้นตรง และผู้บัญชาการเหล่าทัพ และได้รายงานผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา โดยระบุว่า ในช่วงวันที่ 13 - 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา องค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ โอไอซี ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งพอใจการแก้ปัญหาของรัฐบาลที่มีความโปร่งใส เปิดกว้าง ชาวพุทธและอิสลามสามารถอยู่ร่วมกันได้

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ยังได้มอบหมายให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคง ภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพ ดำรงความต่อเนื่องดูแลรักษาคงามสงบในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข และพัฒนาเศรษฐกิจโดยจัดตั้งพื้นที่สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ

สำหรับกระบวนการสร้างความสามัคคีปรองดอง ในส่วนของการจัดเวทีปรองดองในต่างจังหวัด จะทยอยจัด ซึ่งทางผู้รับผิดชอบ ทั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค เป็นผู้กำกับในระดับภาค ส่วนในระดับจังหวัดจะเป็นผู้ว่าราชการฯ เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ ส่วนที่มีระบุว่าจังหวัดเชียงใหม่เป็นแห่งแรกนั้น ระบุว่า ไม่ได้เจาะจง หากจังหวัดไหนพร้อมก่อน มีคณะกรรมการ และประสานกับพรรคการเมืองต่างๆ สามารถเริ่มได้ก่อนเลย โดยจะเริ่มในช่วงต้นเดือนมีนาคมเป็นต้นไป ใช้ระยะเวลา 1 เดือน ในการดำเนินงาน


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook