ตม.ปัด13ผู้โดยสารตกเครื่องยันมีจนท.ประจำเคาน์เตอร์ครบ

ตม.ปัด13ผู้โดยสารตกเครื่องยันมีจนท.ประจำเคาน์เตอร์ครบ

ตม.ปัด13ผู้โดยสารตกเครื่องยันมีจนท.ประจำเคาน์เตอร์ครบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบช.ตม. ระบุคลิป จนท.สนามบินทำงานล่าช้า ทำผู้โดยสารตกเครื่อง 13 คน ไม่จริง ตรวจสอบพบ 4 คน ยันมีเจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์ครบ แต่ช่วงเร่งด่วนคนจะมากกว่าปกติ

พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกรณีที่ ในโลกออนไลน์ มีผู้โดยสารโพสต์ facebook คลิปและภาพนิ่งอีก และข้อความระบุว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของผู้โดยสารขาออกที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำงานล่าช้า และมีเจ้าหน้าที่ประจำด่านไม่ครบ ทำให้ผู้โดยสารตกเครื่อง

โดยจากการมาตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีผู้โดยสารที่ตกเครื่องบินในช่วงเช้าของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เพียง 4 คน ไม่ใช่ 13 คน ตามที่มีการโพสต์ โดย 4 คน นี้ เป็นผู้โดยสารชาวกัมพูชาที่จะเดินทางไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา มีกำหนดออกเดินทางเวลา 08.30 น. ซึ่งผู้โดยสาร 4 คน มีการเช็กอินและผ่านด่าน ตม. ได้เป็นที่เรียบร้อย แต่ยังไม่ไปขึ้นเครื่องในทันที คาดว่าสาเหตุเกิดจากผู้โดยสารทั้ง 4 คน อาจไปเลือกซื้อสินค้า รับประทานอาหาร หรืออาจเดินหลง เนื่องจากไม่คุ้นชินเส้นทางในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ส่วนประเด็นที่เจ้าหน้าที่ประจำช่องตรวจของ ตม. นั้น ยืนยันว่าภาพดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งมีผู้โดยสารหนาแน่น คือ ตั้งแต่เวลา 06.00 - 09.00 น. ช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ ซึ่งในวันดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ทำงานประจำที่เคาน์เตอร์รวม 18 คน ไม่ได้อยู่เพียง 6 - 10 คน ตามที่มีการโพสต์ ซึ่งเหตุการณ์หลังจากที่มีการโพสต์คลิปแล้ว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการคลี่คลายผู้โดยสารทั้งหมด ประมาณไม่ถึง 30 นาที เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของด่าน ตม. จะใช้เวลาในการตรวจหนังสือเดินทางของผู้โดยสารคนละประมาณ 45 วินาที ถึง 1 นาที จึงขอแจ้งเตือนไปถึงประชาชนผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างชาติที่จะเดินทางมาขึ้นเครื่อง ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางมาที่สนามบินมากกว่า 1 ถึง 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน ช่วงเช้าวันเสาร์และวันอาทิตย์

ทั้งนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะไม่มีการดำเนินคดีความผิดผู้โพสต์แต่อย่างใด เพราะถือว่าเป็นการแนะนำ ติเตียน การบริการ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้น และไม่ให้เกิดภาพดังกล่าว ซึ่งอาจเสียภาพลักษณ์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและประเทศต่อไป


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook