อดีตคมช.ชี้ทักษิณวาดมโนภาพถูกลอบสังหาร
อดีตบุคคลสำคัญในคมช.ผู้นี้ ยังกล่าวถึงข่าวลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณด้วยว่า เขาคิดไปเอง คงไม่มีใครไปลอบสังหารเขา เพราะเขามีเงินมหาศาลสามารถจ้างรปภ.ได้จำนวนมาก ใครจะไปทำอะไรเขา เขาคงวาดมโนภาพจินตนาการ พอกลางคืนนอนไม่หลับก็คิดไปเรื่อยว่า จะมีคนโน้นตามฆ่า และเขาพยายามพูดให้กำลังใจคนอื่นๆว่า เขายังต่อสู้อยู่ เพื่อรักษากลุ่มเอาไว้ไม่ให้แตก แต่ไม่ต้องดูอื่นไกล ขนาดภรรยาเขายังไม่ไว้วางใจเขา แล้วคนอื่นจะไว้วางใจเขาหรือ
เมื่อถามถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามาบัญชาการในประเทศที่อยู่ใกล้ๆกับประเทศไทยนั้น พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า เขาคงพยายามสร้างขวัญกำลังใจให้พรรคพวกเขา และจากข่าวบอกว่า จะมีส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินทางไปหานั้น ตนฟังดูแล้วยังคิดว่า เป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อส.ส.เป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทยที่ได้รับการคัดเลือกมา และเป็นผู้ที่จะมาออกกฎหมายใช้บังคับคนอื่นๆ แต่ในขณะเดียวกัน ส.ส.เหล่านี้กำลังจะเดินทางไปหาบุคคลที่หนีคดีอาญา ซึ่งดูแล้วน่าจะขัดต่อจริยธรรม จึงอยากฝากส.ส.ที่จะเดินทางไป คิดให้รอบคอบว่า สิ่งที่ทำไปนั้นเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร
พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเข้ามาติดคุกก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน หรือหากอยากจะพ้นจากคดีต้องเข้ามาต่อสู้ทางศาลก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากัน แต่คิดว่า เขาคงไม่ยอมติดคุก เพราะพฤติกรรมที่ดิ้นรนอยู่ทุกวันนี้เพราะเขาไม่ยอมติดคุก ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย จะต่อรองไม่ได้ ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับประเทศไทยได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ ถ้ายังเห็นแก่ประโยชน์ประเทศชาติควรสงบนิ่งไปสักพัก ปล่อยให้ประเทศชาติแก้ปัญหาได้ อย่ามาเป็นตัวทำป่วนให้เกิดความวุ่นวาย และสร้างความแตกแยกในประเทศ เชื่อว่า ถ้าเป็นลักษณะนี้ วันหนึ่งท่านจะกลับประเทศได้ พล.อ.สมเจตน์ กล่าว
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่มีความเป็นสถาบันมากที่สุด เพราะในพรรคมีกฎระเบียบในการดูแล คิดถึงผลกระทบของชาติบ้านเมืองเป็นหลัก ตนยังมั่นใจว่า ขณะนี้ระหว่างทหารกับพรรคประชาธิปัตย์สามารถทำงานกันได้อย่างดี ไม่น่ามีปัญหา
เมื่อถามว่า มองสถานการณ์ขณะนี้ถึงเวลาหรือยังที่คมช.จะเข้าไปเล่นการเมือง พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า การที่ทหารจะเข้าไปสู่การเมืองนั้นมีหลายวิธีทาง หนึ่งคือมีตัวแทนทหารลงไปเลือกตั้ง เพราะทหารคือกลุ่มประชาชนคนหนึ่ง ดังนั้นจะบอกว่า ทหารไม่ควรยุ่งเกี่ยวการเมือง คิดว่าไม่ใช่ แต่เราไม่ควรเอาตำแหน่งหน้าที่ของเราไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่โดยสิทธิทหารต้องมีตัวแทนเข้าไปในการเมือง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของทหารและไม่ให้การเมืองเข้ามาล้วงลูกทหาร ไม่ให้การเมืองเข้ามาแต่งตั้งผู้บังคับบัญชาทหารได้
การเมืองต้องมีความเข้าใจและต้องรักษาระยะห่างระหว่างทหารกับการเมือง ทหารคือกลไกของรัฐ แต่ไม่ใช่เครื่องมือของรัฐที่จะไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ตราบใดที่รัฐบาลให้เกียรติทหาร คิดว่า เป็นการรักษาสถานภาพระหว่างการเมืองกับการทหารให้อยู่ในช่องว่างที่เหมาะสม พล.อ.สมเจตน์ ระบุ