โล่งอก! โครงกระดูกใต้ทะเลเกาะเต่า ไม่ใช่แหม่มรัสเซียหายตัว

จากกรณีการหายตัวไปอย่างปริศนาของ น.ส.วาเลนติน่า โนวาจีโอโนวา อายุ 23 ปี สัญชาติรัสเซีย ซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะเต่าโดยเข้าพักที่โรงแรมเกาะเต่าฮอสเทล หมู่ 3 ถนนบ้านเก่า ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

กระทั่งมีผู้พบเห็นน.ส.วาเลนติน่า ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นหรือติดต่อได้อีกเลย จนเวลา ผ่านมากว่า 2 สัปดาห์ พบแต่เพียงทรัพย์สิน ของน.ส.วาเลนติน่าอยู่ภายในห้องพัก จนในขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซียรายนี้

ช่วงบ่ายวันที่ 9 มี.ค. ชุดค้นหาใต้น้ำ จำนวน 9 คน ประกอบด้วย ตำรวจน้ำ กู้ภัยเกาะเต่า ได้ดำน้ำสำรวจบริเวณอ่าวโฉลกบ้านเก่า ตลอดแนวเรื่อยมาจนถึงแหลมวิวพ้อยท์ ใช้วิธีดำน้ำแบบหน้ากระดาน ในระดับน้ำลึก 5-8 เมตร ผลการค้นหาพบชิ้นเนื้อโครงกระดูกที่จุดหน้าวิวพ้อยท์รีสอร์ต จำนวน 5 ชิ้น 3 จุด และพบเสื้อกล้ามสีเขียวและแว่นตาดำน้ำ ต้องสงสัยว่าเป็นของหญิงสาวชาวรัสเซียผู้สูญหาย อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน 

ต่อมาเมื่อเวลา 06.00 น. วานนี้ (10 มี.ค. 60) พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ของกองบินกรมตำรวจมารับวัตถุพยานเพื่อนำส่งไปตรวจยังนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจแห่งชาติ เพื่อเปรียบเทียบดีเอ็นเอของ น.ส.วาเลนติน่า หลังจากนำไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันนี้

ล่าสุดผลการตรวจสอบเบื้องต้นออกมาแล้วว่า ชิ้นเนื้อที่พบไม่ใช่เนื้อมนุษย์ แต่เป็นเนื้อของสัตว์น้ำ ทางตำรวจจึงต้องประชุมวางแผนการค้นหากันต่อไป ส่วนผลตรวจดีเอ็นเอ จากเสื้อผ้าและรองเท้ายังไม่ยืนยันว่าตรงกับดีเอ็นเอ.น.ส.วาเลนตินา หรือไม่ ทั้งนี้จะรอการสอบปากคำเพื่อนคู่บัดดี้ชาวรัสเซียด้วยกัน ที่รับปากจะเดินทางจากประเทศฟิลิปปินส์มาให้ปากคำในสัปดาห์หน้ากับตำรวจ