ทบ.ยันจนท.ป้องกันตัวจับกุมยาเสพติดมีผู้เสียชีวิต

ทบ.แจงถูกกล่าวหา จนท.ทำเกินกว่าเหตุ จับกุมยาเสพติด ยันตรวจสอบแล้ว เป็นการป้องกันตัว ผู้กระทำผิดพยายามต่อสู้

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจง กรณี มีการร้องเรียนผ่านสื่อเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา ว่าเจ้าหน้าที่ทหารได้กระทำการที่เกินกว่าเหตุในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ว่าจากการสอบถามข้อมูลในเบื้องต้น เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นไปในลักษณะที่สุดวิสัยเนื่องจากผู้ต้องสงสัยมีพฤติกรรมต่อสู้ขัดขืน และพยายามที่จะทำร้ายโดยประสงค์ต่อชีวิตเจ้าหน้าที่  จึงจำเป็นต้องป้องกันตัว

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 17 มี.ค. เจ้าหน้าที่ทหาร สังกัดกองร้อยทหารม้าที่ 2  บก.ควบคุมที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 ได้จัดตั้งจุดตรวจค้นยาเสพติดบริเวณสามแยกรินหลวง พบรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซ สีดำ หมายทะเบียน ขก-3774 เชียงใหม่ มียาบ้า จำนวน 2,800 เม็ด ซุกซ่อนไว้บริเวณกรองอากาศจึงเข้าดำเนินการจับกุม นายพงศ์นัย แสงตะล้า อายุ 19 ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนขับรถไว้ได้ แต่นาย ชัยภูมิ ป่าแส อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่นั่งมาด้วยทางด้านหน้าข้างคนขับได้มีการขัดขืนโดยได้วิ่งหนีออกจากรถไป หวังหลบหนีการจับกุม เจ้าหน้าทหารจึงได้มีการวิ่งไล่ติดตามไป และเมื่อใกล้ถึงตัวนาย ชัยภูมิ กลับเกิดเหตุการณ์ที่น่าเสียใจคือ นายชัยภูมิ หยิบระเบิดมือที่พกไว้ออกมา พยายามที่จะขว้างใส่หวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนประจำกาย ยิงออกไป เพื่อจะหยุดการกระทำและเพื่อเป็นการป้องกันตัว 1 นัด เป็นเหตุให้ นาย ชัยภูมิ เสียชีวิต 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ตลอดเวลาเจ้าหน้าที่ทุกคนยึดมั่นในหลักปฏิบัติที่จะพยายามดำเนินการใดๆ ด้วยวิธีที่ละมุนละม่อม หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงให้ได้มากที่สุด กรณีจะใช้อาวุธต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น