สหกรณ์แท็กซี่ร้องขึ้นค่ารถ ชี้คนขับปฏิเสธผู้โดยสารเพราะวิ่งไม่คุ้มทุน

วันที่ 20 มี.ค.60–นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร เดินทางเข้ามายื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผ่านตัวแทนเจ้าหน้าที่ และอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เพื่อขอให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและแก้ไขปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากที่ผ่านมามีการนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการเป็นรถโดยสารสาธารณะเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันก็มีจำนวนกว่า 50,000 คัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนขับแท็กซี่ที่ลงทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ทำให้มีการแย่งผู้โดยสาร เกิดการกระทบกระทั่ง และทำให้รายได้ของรถแท็กซี่ที่ถูกกฎหมายลดลงกว่าร้อยละ 30 แต่เครือข่ายสหกรณ์ฯยืนยันว่า ไม่ได้ต่อต้านหรือปิดกั้นการนำแอปพลิเคชั่นมาใช้ แต่ต้องการรถแท็กซี่ทุกคันให้บริการอย่างถูกต้อง หากกระทรวงคมนาคม ยังไม่แก้ไขก็จะเดินหน้าทวงถามอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่า จะไม่มีการรวมกลุ่มชุมนุมประท้วงอย่างแน่นอน
 
นอกจากนี้ต้องการให้ทบทวนโครงสร้างค่าโดยสารในปัจจุบันให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เนื่องจากสาเหตุหลักของการปฏิเสธผู้โดยสาร เป็นเพราะหากวิ่งให้บริการจะไม่คุ้มค่ากับต้นทุน จึงขอให้มีการปรับโครงสร้างแท็กซี่ใหม่ และให้เปิดเป็นระบบสัมปทานที่มีผู้ประกอบการกำกับดูแล เพราะหากพบการกระทำความผิดก็จะสามารถลงโทษโดยการยึดใบอนุญาตสัมปทานได้ทันที ส่วนการนำแอปพลิเคชั่นมาให้บริการ ทางเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ ขอยืนยันว่า มีความพร้อม ผ่านการให้บริการแอปพลิเคชั่น Smart Taxi ที่พัฒนาโดยคนไทย แต่จะต้องรอให้กรมการขนส่งทางบกแก้ไขกฎหมาย เกี่ยวกับการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมเช่น กล้องวงจรปิดและมิเตอร์รูปแบบใหม่ ที่ใช้บัตรประจำตัวคนขับสแกนเพื่อยืนยันตัวตนก่อนออกให้บริการ และหวังว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายใน 3-6 เดือนนี้