อะตอม ปิดฉากรัก แฟนสาว 7 ปี จบกันไม่ค่อยเคลียร์

ปิดฉากรักมาราธอนอีกคน สำหรับนักร้องหนุ่ม “อะตอม ชนกันต์” ที่ล่าสุดได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนให้ฟังว่าตอนนี้ไดยุติความสัมพันธ์กับหวานใจสาว “แนนซี่” ได้สักพักแล้ว ด้วยสาเหตุส่วนตัวที่ไม่ขอลงรายละเอียด ยอมรับเป็นฝ่ายบอกเลิกเอง ซึ่งฝ่ายหญิงก็คงมีท่าทีโกรธ แต่ขอปล่อยให้เวลาคลี่คลายทุกอย่างเอง พร้อมยืนยันไม่เกี่ยวกับมือที่สามแน่นอน

เห็นสถานะหัวใจตอนนี้บอกว่าโสดแล้ว?
“ครับ ก็สักพักแล้ว จริงๆ เป็นเหตุผลจากฝั่งของเราแหละที่คิดว่าแยกออกมาดีกว่า ก่อนหน้านี้เราใช้เวลาคบหากันมาก็หลายปีครับ แต่ในช่วงระหว่างนั้นก็จะมีบางอย่างที่ขาดหายไป และมีเรื่องที่ทำให้ตัวเรากลับมาเหมือนเดิมไม่ไดร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็พยายามจะให้มันดี ให้โอกาสอีกสักครั้ง แต่พออยู่ไปสักพัก เราก็รู้ตัวว่ามันเต็มร้อยไม่ได้เหมือนเดิม มันไม่แฟร์กับเขาและตัวเราเองด้วย เลยตกลงแยกกันดีกว่า”

ในช่วงแรกๆ ดูคู่เราหวานพอสมควร ทำให้หลายคนตกใจทำไมถึงไปไม่รอด?
“ใช่ครับ จริงๆ มันเป็นอะไรที่อยู่ในใจเรา เหมือนความสัมพันธ์ที่ขาดไปแล้วครั้งนึง พอกลับมาก็คิดว่าหลายๆ คนเคยเป็น มันจะมีปม มีความไม่เต็มร้อย ไม่เหมือนตอนเริ่มแรกเท่าไหร่ อาจจะเป็นเราที่เปลี่ยนไปด้วยครับส่วนนึง มันก็เป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ แต่ไม่ขอลงรายละเอียดดีกว่าเพราะมันผ่านมาแล้ว และกลับไปแก้อะไรไม่ได้”

เราเป็นคนบอกเลิกฝ่ายหญิงใช่ไหม?
“คุยกันครับ แต่เริ่มตัดสินใจจากทางเราเอง ไม่ได้มีเรื่องของมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้ามีจะบอกให้ทราบ ตอนนี้มันเป็นเหตุผลส่วนตัวล้วนๆ และมีมาสักพัก เพียงแต่เราเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่ง พอจุดหนึ่งเราคุยกับตัวเองเคลียร์แล้วก็พร้อมที่จะบอกเขาตรงๆ”

เลิกกันในวันวาเลนไทน์หรือก่อนหน้านั้น?
“ก่อนหน้านั้นสักพักหนึ่งครับ”

ในวันวาเลนไทน์ฝ่ายหญิงโพสต์ทำนองว่าเป็น Fuck Valentine?
“ไม่ว่าจะจบแบบไหนก็คิดไปได้หลายอย่าง มันมีความไม่เข้าใจ ความโกรธ ความหงุดหงิดหลายอย่าง แต่เหตุผลก็เป็นแบบที่ผมบอก มันเข้าใจได้ หากใครจะคิดไปทางอื่นอันนี้ก็คงห้ามไม่ได้ ตั้งแต่พูดคุยกันรอบนั้นเราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยครับ”

แต่ดูฝ่ายหญิงจะไม่ค่อยเข้าใจกับเหตุผลของเรา?
“เขาน่าจะเข้าใจนะครับ เพราะตอนพูดคุยกันก็แยกกันด้วยดี ส่วนตัวผมเองก็เป็นห่วงความรู้สึกเขาแหละ เพียงแต่การทักไปถามว่าเป็นยัง หรือการติดต่อกันมันจะทำให้เป็นเรื่องยุ่งยากไปอีก”

จากข้อความที่เขาโพสต์ มีฟีดแบคมาถึงเราเยอะไหม?
“ก็มีคนเล่าให้ฟังเหมือนกัน แต่เราไม่ได้เข้าไปดูเพราะเราเป็นคนเซ็นซิทีปกับเรื่องพวกนี้ต่อให้เราเป็นคนตัดสินใจแยกก็ตาม จึงให้เวลาช่วยคลี่คลายเรื่องทุกอย่าง”

หลายคนมองว่าพอเรามีชื่อเสียงมันทำให้เราเปลี่ยนไปหรือเปล่า?
“ถ้าเป็นเรื่องดังแล้วเปลี่ยนไปผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องนั้นเลย เพราะเวลาผมคบใครก็ค่อนข้างจะเต็มร้อยมากๆ อีกอย่างเขาเป็นคนที่เราอยู่มาด้วยนานที่สุด จริงๆ คนใกล้ตัวผมจะรู้ว่าช่วงที่ผ่านมามันเกิดอะไรบ้าง มันมีผลกับตัวเราและความสัมพันธ์กับเขามากแค่ไหน มันเป็นเหตุผลส่วนตัวที่ค้างคามานานครับ”

ถึงขั้นบล็อกเฟส บล็อกไอจีกันเลยไหม?
“ตัวผมไม่ได้บล็อกอะไรครับ อยากให้เป็นเพื่อนที่ยังหวังดีต่อกันได้ตลอด แต่มันอาจจะยากสำหรับเขาผมก็เข้าใจ”

7 ปีที่คบกันมา เสียดายเวลาบ้างไหม?
“เกือบ 7 ปีครับ ก็ได้กลับมารีเทิร์นอีกครั้ง แต่ตอนนี้ยังไม่รู้เหมือนกัน เรารู้สึกว่าเราแยกออกมาดีกว่า ให้อยู่กับตัวเองมันน่าจะดีกว่า ผมไม่เสียดายเวลานะที่คบกัน เพราะตอนนั้นก็มีความสุขดี”

เคยแต่'เพลงให้เขาไหม?
“ก็มีส่วนนึงในเพลงนะแต่ไม่ได้ตรงขนาดนั้น เราก็เคยมีแต่งให้บ้าง แต่อนาคตยังไม่รู้”

ดูเขายังโกรธเรา?
“น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ ก็พอทราบมาเหมือนกัน แต่บางทีอาจจะไม่ใช่ในสิ่งที่เขาคิด แต่บางทีถ้าเราพยายามไปอธิบายให้เขาเข้าใจจริงๆ มันก็อาจไม่เกิดประโยชน์อะไร ผมไม่รู้ว่าสิ่งต่างๆ หรือข้อมูลที่เขาเจอในตอนนี้เป็นยังไง แต่รับรู้ได้ว่ายังมีความโกรธอยู่”

จะมีอธิบายให้เขาเข้าใจผ่านสื่อไหมว่าสิ่งที่เขาคิดมันไม่ใช่นะ?
“จริงๆ ขอไม่ใช้พื้นที่ตรงนี้ในการตอบโต้กันดีกว่า เพราะว่าเราอยากให้มันค่อยๆ คลี่คลาย ให้ต่างคนได้ใช้เวลาในการปรับตัวและทำความเข้าใจ ตอนนี้ผมก็ยังไม่พร้อมมีใคร ขอโฟกัสกับงานก่อนดีกว่า”